อัญมณีล้ำค่า เป็นขนมหวานถ้วยโปรด แห่ง “ร้านทับทิมกรอบเจ๊อ้วน”

ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกิน ทั้งของคาว ของหวาน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยที่โดดเด่น และนิสัยของคนไทยที่กินคาวแล้วต้องกินหวานจึงทำให้อาหารไทยมีหลายเมนูเป็นที่น่าสนใจแก่ชาวต่างประเทศ และเนื่องจากประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนจึงทำให้มีเมนูขนมหวานต่าง ๆ มากมายมาเพื่อดับร้อน นอกจากจะช่วยคลายร้อนได้บ้างแล้ว ชื่อของขนมหวาน และอาหารอื่น ๆ ยังจะต้องเป็นชื่อที่เป็นมงคลเหมาะแก่การนำไปใช้ในพิธีมงคลอีกด้วย

ขนมหวานคล้ายร้อนของประเทศไทยที่ชื่อเป็นมงคลอีกหนึ่งอย่างคงหนีไม่พ้น “ทับทิมกรอบ” เป็นขนมหวานไทยที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับผลไม้อย่างหนึ่ง คือ ทับทิม ที่จะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีแดงเข้มสลับอ่อน นิยมทานในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูร้อน เป็นขนมหวานที่มีลักษณะเป็นเม็ดทับทิมกรอบ สีแดง สีสันสดใส ซึ่งข้างในจะเป็นแห้ว นำมาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ หุ้มด้วยแป้งที่ผสมสีแดงฉ่ำ แล้วนำเอาไปต้มเพื่อให้ตัวแป้งสุก เคี่ยวน้ำกะทิจนแตกมัน ตักใส่ทับทิมกรอบพร้อมกับราดน้ำเชื่อมลงไป ลอยดอกมะลิเพื่อเพิ่มความหอม โรยน้ำแข็งทุบละเอียดลงไป รสชาติหอมชื่นใจ

ร้านทับทิมกรอบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจังหวัดเชียงใหม่คงหนีไม่พ้นร้านชื่อดังเจ้านี้ “ทับทิมกรอบเจ๊อ้วน” ร้านนี้เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว มีเมนูทั้งของคาว ของหวานแต่ทีเด็ดที่สุดคงจะต้องเป็น ทับทิมกรอบอันเลื่องชื่อ สูตรของร้านที่ทำเองตั้งแต่การเคี่ยวน้ำกะทิ จนถึงการคัดเลือกแห้ว เรียกว่าทำเองทั้งหมดได้ทั้งความเข้ม ความมัน จนลูกค้าหลาย ๆ ท่านถึงต้องกับยกซด เมนูทับทิมกรอบของเจ้อ้วนมีมาให้เลือกทั้งหมด 3 สูตร ทั้งสูตรที่เป็นทับทิมกรอบกับมะพร้าวกะทิ หรือจะเป็นสูตรที่เพิ่มเครื่องเคียงอย่างเช่น พุทราเชื่อม แห้วเชื่อม หรือสูตร 3 ที่ใส่รวมทั้งหมดมาเลยทั้งสลิ่ม ทั้งมันเชื่อม เรียกว่าจัดเต็มมาเลยก็ได้ เวลาเคี้ยวไปจะรู้สึกกรอบและนุ่มลิ้น น่าไปลิ้มลองเป็นที่สุด ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนศรีดอนไชย เลยพันทิพย์พลาซ่าไปทางแม่น้ำปิง ร้านคนจะแน่นตลอด เพราะทุกคนต่างอยากมาลองชิมขนมหวานแสนอร่อยจากร้านทับทิมกรอบเจ้อ้วน

ขึ้นชื่อว่าขนมหวานแล้ว รสชาติก็ต้องหวานตามไปด้วย แต่ขนมหวานไทยเอกลักษณ์ของความหวานจะอยู่ที่การเคี่ยวน้ำเชื่อมไม่ให้ออกมาหวานแหลมเกินไป แต่จะเป็นความหวานแบบละมุนลิ้น มีความมันและเค็มจากกะทิเป็นการตัดความเลี่ยนของขนมหวาน รวมไปถึงกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ของขนมหวานแต่ละชนิด ที่นอกจากจะทำให้รู้สึกสดชื่นแล้วยังเป็นการกระตุ้นความอยากอาหารสำหรับคนที่รู้สึกเบื่ออาหาร แต่ถ้าหากทานมากเกินไปก็อาจจะทำให้อ้วนได้ เรียกว่าทานได้ แต่ต้องอย่าลืมที่จะรักษาสุขภาพควบคู่กันไปด้วยจะได้มีความสุขควบคู่กันนาน ๆ

ร้านข้าวเงี้ยวดังระดับตำนาน “ข้าวเงี้ยว ตาบุญ” เชียงใหม่เจ้า

“ข้าวเงี้ยว” หรืออีกชื่อที่คนทางภาคเหนือมักเรียกอาหารชนิดนี้กันอีกอย่างหนึ่งคือ “ข้าวกั้นจิ้น” เป็นอาหารพื้นบ้านล้านนาที่ส่วนใหญ่มีแค่คนเหนือเท่านั้นที่รู้จัก เดิมทีข้าวเงี้ยวเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากไทยใหญ่ ซึ่งในอดีตชาวล้านนาจะเรียกชาวไทยใหญ่ว่า เงี้ยว จึงเป็นที่มาของการเรียกอาหารชนิดนี้ว่า ข้าวเงี้ยว แต่ในบางพื้นที่ก็มักจะเรียกกันอีกอย่างหนึ่งคือข้าวกั้นจิ้น อาจจะเป็นเพราะมีขั้นตอนการทำดังนี้ นำข้าวสวย มาคลุกเค้า บีบและนวด ผสมกับเลือดหมูที่คั้นกับตะไคร้เพื่อดับกลิ่น และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ตักข้าวที่คั้นกับเลือดมาห่อกับใบตอง แล้วนำไปนึ่งจนสุก ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน ขั้นตอนการคลุกเค้าแบบนี้ชาวเหนือจะเรียกว่า กั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  ข้าวกั้นจิ้น

หากคุณแวะมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำให้ลองไปชิมร้าน ข้าวเงี้ยวตาบุญ เป็นร้านข้าวเงี้ยวในตำนานของชาวเชียงใหม่ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าการประปาเชียงใหม่ ก่อนถึงโลตัสคำเที่ยง ซึ่งชื่อระดับตำนานที่จะต้องกล่าวถึงนี้ก็คือ ตาบุญ เมื่อก่อนนั้นแกหาบข้าวเงี้ยวขายเลี้ยงครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว สิ่งทีเหลืออยู่ก็คือ สูตรข้าวเงี้ยวอร่อย ๆ ของแกที่ทิ้งไว้ให้กับลูกหลานได้สืบต่อจนเปิดเป็นร้านข้าวเงี้ยวตาบุญ ที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้

สำหรับใครที่แวะมาทานที่ร้านนี้อย่ามัวแต่ดูเมนูเพลินจนลืมสั่งเมนูต้นตำหรับของร้านนั่นก็คือ ข้าวเงี้ยว ซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงนั่นก็คือ กระเทียมเจียวที่จะมีน้ำมันติดมานิด ๆ พริกแห้งทอด ผักชี และแตงกวา เวลาทานต้องบีบมะนาว ๆ นิด ๆ เพิ่มรสชาติ เคี้ยวไปจะได้กลิ่นหอมของกระเทียมเจียว มีความฉ่ำของน้ำมันกระเทียมเจียว ตัดเลี่ยนด้วยพริกแห้งทอด ต้องบอกเลยว่าจานเดียวไม่พอแน่นอน

เมนูอื่นที่ไม่ควรพลาดสำหรับร้านนี้นอกจากข้าวเงี้ยวแล้วก็คือ ข้าวซอย และขนมจีนน้ำเงี้ยว ซึ่งถ้ามาถึงเชียงใหม่แล้วไม่ได้กินก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึง เมนูขนมจีนร้านนี้มีหลายน้ำให้เลือกชิม ทั้งน้ำแกงเขียวหวานไก่ น้ำยากะทิ แกงเผ็ดไก่ หรือถ้าใครไม่อยากกินเส้นก็สามารถสั่งราดข้าวได้ แต่ถ้าลังเลใจแนะนำเป็นเมนู ข้าวเงี้ยวราดน้ำเงี้ยว ก็เข้ากันจนอยากสั่งกลับไปกินที่บ้าน และยังมีของหวานอย่าง ลอดช่องแตงไทย หรือเฉาก๊วย ก็มีเหมือนกัน บรรยากาศในร้านสบาย ๆ สะอาด สะอ้าน ร้านเปิด 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น หยุดทุกวันอาทิตย์

ข้าวเงี้ยวหรือข้าวกั้นจิ้นเป็นอาหารของชาวเหนือ ใครที่เป็นชาวเหนืออยู่แล้วคงรู้กันดีว่ารสชาติมันอร่อยติดใจอย่างไร สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองชิมแล้วแวะมาเที่ยวเชียงใหม่หรือจังหวัดทางภาคเหนือ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมลิ้มลองรสชาติอาหารชนิดนี้ดูเพราะว่าด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้อาหารชนิดนี้เริ่มที่จะหาทานได้ยากขึ้นแล้ว

เอาใจคนรักกะเพรา มทส.ประตู4 โคราชเด้อ

อาหารจานด่วนหรืออาหารตามสั่ง เชื่อว่าหลายท่านหน้าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว จะด้วยความเร่งรีบ ความสะดวก หรือประหยัดกว่าทำกับข้าวกินเองก็ตามที ซึ่งอาหารจานด่วนหรืออาหารตามสั่งของไทยนั้นมีหลากหลายเมนู และมีร้านอาหารตามสั่งมากมาย เรียกได้ว่าเปิดขายตลอดเวลาแข่งกับร้านสะดวกซื้อชื่อดังเลยทีเดียว บางเมนูร้านสะดวกซื้อก็นำมาขายเสียเองด้วยซ้ำ เพราะเป็นเมนูที่ใคร ๆ ต่างคุ้นเคยจนเรียกว่าเป็นที่นิยมของคนไทยและต่างชาติทุกเพศทุกวัย แน่นอนว่ามันคือ ข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว เพราะเป็นอาหารที่ง่าย กินได้ทุกมื้อ เคยไหมที่เวลาไปร้านอาหารตามสั่ง คิดเมนูอะไรไม่ออก ก็กระเพราหมูสับไข่ดาว ทำง่าย ได้กินไว แถมรสชาติก็อร่อยถูกใจ จนหลาย ๆ คนเรียกตลก ๆ กันว่า “ข้าวผัดสิ้นคิด” ก็มี

ผัดกะเพรามาจากไหน? เป็นคำถามที่ใครหลายคนอาจสงสัย จากที่ค้นเจอจะเป็นงานเขียนในหนังสืออาหารรสวิเศษของคนโบราณว่า ผัดกะเพราได้มีมากว่า 50 ปีแล้ว เริ่มมีความนิยมทานใน พ.ศ.2500 ก่อนหน้านั้นคนไทยเราใส่ใบกะเพราในผัดเผ็ดหรือแกงป่า ต่อมาชาวจีนได้นำมาผัดกับเต้าเจี้ยว เนื้อหมู  เนื้อไก่ ใส่กระเทียมและพริก ราดกับข้าวสวยร้อน ๆ ปัจจุบันร้านอาหารตามสั่งไม่นิยมใส่เต้าเจี้ยว ในหนังสือยังเขียนถึงอีกที่นึงที่มีวัยรุ่นแถวชลบุรีไปเที่ยวแถวบางแสนจนดึก เจอร้านอาหารที่กำลังจะปิด และรบเร้าเจ้าของร้านให้ทำอาหารให้ อะไรก็ได้ง่าย ๆ เจ้าของร้านจึงนำเนื้อสัตว์ผัดกับกระเพาให้ทานแบบขอไปที แต่อาหารเมนูนี้กลับให้รสอร่อยจนเป็นที่นิยมขึ้นมาได้

เมนูรวดเร็วทันใจที่โคราชย่านนักศึกษา ซึ่งเน้นเร็วเ น้นไว อร่อยและต้องได้เยอะ ๆ เพราะวัยรุ่นส่วนใหญ่จะทานกันเป็นกลุ่มสั่งทีเดียวทานได้ทั้งกลุ่ม รินลดากะเพราถาด อยู่ที่ประตู 4 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จุดเด่นของร้านนี้คือข้าวผัดกะเพราที่ใส่ถาดเสิร์ฟ มีไข่ดาวมาวางบนข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งแน่นอนว่าทานคนเดียวจะลำบากหน่อย เพราะร้านนี้ให้เยอะมาก ขนาด 2-3 คนทาน มีทั้งกะเพราหมูสับ ไก่ เนื้อ ปลาหมึก หรือกุ้งตัวใหญ่ ๆ หรือหากเลือกไม่ถูกก็สามารถสั่งกะเพรารวมได้เลย ที่ร้านยังมีเมนูหลายอย่าง รสชาติความเผ็ดสั่งได้ เผ็ดมากเผ็ดน้อยบอกได้เจ้าของร้านจัดให้ตามคำขอ ที่สำคัญผัดกะเพราที่นี่ไม่ใส่ถั่วฝักยาวหรือผักอื่น เรียกได้ว่ากะเพราแท้ ๆ ร้านจะเปิด 10.00 น. – 20.00  ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา บุคลากร และลูกค้าที่ชื่นชอบกะเพรา เมนูกะเพราที่ร้านแบบขนาดปกติก็มีขาย สามารถสั่งได้ตามสั่งปกติ เหมาะสำหรับฝากท้องก่อน หรือหลังเลิกเรียน หิวข้าวมากินที่ร้านรินลดากะเพราถาด อิ่มอร่อย ราคาประหยัด

 

อิ่มอร่อยสไตล์โก๋หลังวัง ย้อนวัยเก๋าที่ย่านเยาวราช

ในยุค 60 เป็นยุคที่เรียกได้ว่ามีมนต์เสน่ห์เป็นอย่างมาก เพราะกระแสการเข้ามาของวัฒนธรรมอเมริกัน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ดนตรีร็อคแอนด์โรล การเปลี่ยนแปลงการปกครอง รวมไปถึงวิถีชีวิตต่าง ๆ และที่สำคัญเป็นยุคที่เรียกว่า “อันธพาลครองเมือง” มีกลุ่มนักเลงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีการปกครองชุมชนกันเอง ส่วนมากปกครองด้วยระบบคุณธรรม ไม่กดขี่ข่มเหงใครก่อน แต่ในสมัยนั้นเจ้าาหน้าที่รัฐได้เข้ามาจัดการรูปแบบปกครองจนหมดยุคอันตพาลครองเมืองไป วันนี้เราจะพาคุณไปดูร้านดังเก่าแก่สมัยโก๋หลังวัง ย่านเจริญกรุง เยาวราช และบริเวณใกล้เคียง

อาหารเช้า เราขอแนะนำร้านนี้ ออนล๊อคหยุ่น เป็นร้านอาหารเช้าที่ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง ถนนสายเก่าที่แน่นไปด้วยเรื่องราวในวันวาน ข้างศาลาเฉลิมกรุง ซึ่งในสมัยก่อนจะเป็นที่ชุมนุมของวัยรุ่น คล้ายกับสยามพารากอนในปัจจุบัน มาลองทานอาหารเช้าสไตล์ breakfast แบบอเมริกันแท้ ๆ ได้จากที่นี่ ร้านนี้ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอาหารเช้าอเมริกัน ซึ่งจะประกอบด้วย ไส้กรอก ไข่ดาว หมูแฮม เบคอน ขนมปังกะโหลกร้อน ๆ ที่พร้อมกับเนยและน้ำตาล สังขยา มีข้าวโอ๊ต อุดมด้วยวิตามินให้ได้อิ่มอร่อย และตบท้ายด้วยเครื่องดื่ม กาแฟ ไมโล ถ้าชอบชอบเครื่องดื่มแบบพี่แดงไบเล่อย่างนมเย็น ก็สามารถสั่งได้เลย

อาหารกลางวัน เราขอแนะนำร้านข้าวที่อยู่คู่กับเจริญกรุงมาทุกยุค ข้าวเสียโป ร้านลุงนัน ตั้งอยู่ที่เจริญกรุง 19  ข้าวเสียโปเป็นอาหารเรียกว่ารวมมิตรโบราญในยุคนั้น ซึ่งในอดีตข้าวเสียโปเกิดจากการที่นักพนันมาเล่นการพนันที่เรียกว่าโป ในละแวกนี้แล้วเสีย เหลือเงินไม่มาก เลยร้องขอให้คนขาย ทำอาหารเมนูนี้ขึ้นมาในราคาถูก ๆ ซึ่งข้าวเสียโปจะประกอบไปด้วย ข้าวสวยร้อน ๆ ราดหน้าด้วยหมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง เครื่องในไก่ ตามด้วยน้ำพะโล้รสกล่อมกล่อม (เสมือนว่ามีอะไรเหลือก็ใส่ ๆ ไป) กลายเป็นอาหารที่ได้รับความสนใจ แม้คนที่ไม่เสียพนันก็ยังชอบมาทาน

อาหารเย็น ปกติกลุ่มอันธพาลมักจะทานอาหารเหลา หรืออาหารภัตตาหารจีน แนะนำที่ร้านภัตตาคารหูฉลาม ฮั้วเซ่งฮงเยาวราช เป็นร้านอาหารสไตล์จีน อยู่คู่เยาวราชมามากกว่า 50 ปีแล้ว โดยสาขาเยาวราชเปิดเป็นสาขาแรก จุดเด่นหลัก ๆ ของที่นี่ คือรสชาติของอาหารและความสดใหม่ของวัตถุดิบ เมนูเด่นของร้านคือ หูฉลามน้ำแดงและปูผัดผงกะหรี่ หรือหากมาหลายท่าน ที่นี่มีอาหารเป็นเซ็ทไว้ให้บริการเพื่อความสะดวกและประหยัด มีอาหาร 6-7 อย่าง เรียกได้ว่าเป็นโต๊ะจีนขนาดย่อม ๆ ในราคาไม่แพง เหมาะสมกับรสชาติอาหารและบริการที่ดีนับว่าคุ้มมาก ๆ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวจากย่านเก่าแก่ ที่พาให้คุณได้เต็มอิ่มด้วยร้านอาหารที่มีชื่อเสียง และเต็มอิ่มทั้งเรื่องราวในอดีต ความทรงจำในวันวานอร่อยแบบฉบับโก๋หลังที่เยาวราชที่คุณต้องมา

 

แซ่บสุด ๆ ด๊ะดาดสเต็กจิ้มก๊ะแจ่ว ความอร่อยแตกต่างที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

เมื่อพูดถึงสเต็ก (steak) ภาพของอาหารตะวันตกก็ลอยมาในหัวแทบจะทันที ที่มาพร้อมกับเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะเมนูเนื้อวัวชิ้นโต ซึ่งผ่านการย่างหรือ grill  ในกระทะจนสุกในระดับที่แต่ละคนชอบ แต่สำหรับเนื้อหมู ไก่ ปลาแล้วละก็มีแต่แบบสุกเท่านั้น สเต็กแบบดั้งเดิมจะเสิร์ฟเครื่องเคียงแบบฝรั่งเศษที่มีทั้งสลัด ขนมปังปิ้งหอม ๆ เฟร้นช์ฟรายด์ มันบด   หรืออาจจะแนบเคียงไส้กรอกรมควัน น้ำจิ้มเป็นซอสเกรวี่ ซอสพริกไทยดำ หรือไวท์ซอส ตามประเภทของเนื้อสัตว์ แล้วสเต็กจิ้มแจ่วสไตล์ไทยละเป็นอย่างไร จะเข้ากันไหมนะ?

แจ่ว คือ เครื่องจิ้มหรือน้ำจิ้มแบบอีสาน หลัก ๆ ส่วนผสมก็มักใช้ปลาร้าหรือน้ำปลา เติมด้วยพริกป่น ใช้จิ้มผักจิ้มเนื้อสัตว์ ร้านด๊ะดาดสเต็กจิ้มก๊ะแจ่ว ได้ผสมผสานอาหารตะวันตกกับน้ำจิ้มแบบอิสาน เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวในแบบเฉพาะของร้าน การตกแต่งร้าน รวมถึงการแต่งกายของพนักงานเป็นสไตส์คาวบอย พิกัดร้านตั้งอยู่ที่ 1119 หมู่5 ซอย สืบศิริ36 ถนนสืบศิริ ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา ที่จอดรถสะดวก มีทางเข้าสำหรับรถวิลแชร์ด้วย จะมาเป็นกลุ่มแก๊งค์ก๊วนเพื่อนเป็นหมู่คณะ หรือมากับครอบครัวพาลูกหลานมาทานอาหารกันก็ได้ ร้านเปิดทำการทุกวันตั้ง 10:00 น. -22:00 น.

ด๊ะดาด ภาษาโคราชแปลว่าหลากหลาย มากมาย เมนูของทางร้านจึงมีให้เลือกกันแบบด๊ะดาด เริ่มต้นจากเมนูแนะนำอย่างสเเต็กเนื้ออย่างดี ทีโบน เนื้อชิ้นโต เนื้อหมู เนื้อปลาแซลมอน เนื้อไก่ ที่เสิร์ฟพร้อมกับผักสดแบบบ้าน ๆ สไตล์อีสานกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษของทางร้าน 2 แบบด้วยกันพร้อมเสิร์ฟข้าวโพดผัดเนยกระทะร้อน เข้ากันอย่างลงตัวอย่างไร คุณต้องลองชิมดูสักครั้ง นอกจากสเต็กจิ้มก๊ะแจ่วแล้ว ทางร้านก็มี อาหารจานแซ่บ เช่น ยำถั่วพลู หมูมะนาว ส้มตำไทย ตำลาว และผัดหมี่โคราชเลื่องชื่อ ทั้งบรรยากาศคาวบอย ดนตรีสด ทั้งเมนูที่มีให้เลือกอีกมากมาย เรียกได้ว่าด๊ะดาจริง ๆ

อาหารการกินบ่งบอกถึงวัฒนธรรมที่มีในท้องถิ่น ต่างคนต่างเชื้อชาติก็มีวัฒนธรรมแตกต่างกันด้านความเป็นอยู่และอาหารการกิน การผสมผสานวัฒนธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผ่านเมนูอาหาร ผ่านการนำเสนอในรูปแบบที่หลายคนชื่นชอบ ได้ทานอาหารพร้อมพบปะสังสรรค์บรรยากาศคาวบอยโคราช ถิ่นดินแดนแห่งมิตรภาพและสานสัมพันธ์ดุจญาติมิตร หากคุณกำลังหาร้านสเต็กที่มีมากมายในโคราชแต่ยังตัดสินใจไม่ถูก เราขอแนะนำร้านด๊ะดาด สเต็กจิ้มก๊ะแจ่ว สนุกสนานกับการทานสเต็กในราคาไม่แพงอย่างที่คิด ด๊ะดาดอาหารรสเยี่ยม ร้านมีเครื่องดื่มสำหรับนักดื่มเบียร์ และไวน์  ผ่านมาโคราชแวะมาร้านนี้ดูความแตกต่างที่ลงตัว ด๊ะดาด สเต็กจิ้มก๊ะแจ่ว

 

นั่งชิลริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กู๊ดวิว บางคอแหลม

ถ้าจะพูดถึงกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เราจะเห็นได้ว่าเป็นเมืองที่มีอาหารการกินค่อนข้างเยอะ เรียกว่าเป็นศูนย์กลางแห่งอาหารเลยก็ว่าได้ แต่หากคุณกำลังหาร้านที่ราคาไม่แพงและอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยแล้ว อาจจะหายากสักหน่อย เพราะราคาที่ดินของเมืองกรุงนั้นแพงมาก ถึงจะเป็นทางฝั่งธนบุรีหรือจังหวัดสมุทรปราการก็เช่นเดียวกัน แต่ว่าก็ยังมีร้านอาหารที่วิวสวยริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาไม่แพง รสชาติดี ซุกซ่อนอยู่ย่านถนนตก บางคอแหลมนี่เอง เรียกได้ว่ากลางใจเมือง การเดินทางไปมาสะดวกสบาย เหมาะสำหรับพาครอบครัว คนรัก หรือเพื่อน ๆไปสังสรรค์

เดอะวิว หรือ เดอะกู๊ดวิว (กรุงเทพ) ตั้งอยู่ที่  2525 ถนนเจริญกรุง บางคอแหลม กรุงเทพฯ เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการเดินทางมาก็ไม่ยาก ขับรถผ่านหน้าเอเชียทีคไปเส้นถนนตก ร้านจะตั้งอยู่สุดถนนด้านขวา ซึ่งจริง ๆ แล้ว ร้านนี้มี 2 สาขา คือที่เชียงใหม่ริมแม่น้ำปิง และบางคอแหลม กรุงเทพฯ โดยเจ้าของร้านได้เอาแนวความคิดในเรื่องการนำอาหารชาวเหนือล้านนามาให้คนกรุงเทพได้ลิ้มลอง สถานที่จอดรถกว้างขวาง สะดวกสบาย ปลอดภัย ภายในร้านจะมี 3 โซน คือโซนตากอากาศริมแม่น้ำ รับชมวิถีชีวิต 2 ฝั่งเจ้าพระยา โซนผับดนตรีสด ซึ่งเป็นที่นิยมของบรรดาหนุ่มสาวออฟฟิศยามเลิกงาน เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านออฟฟิศที่สาธรหรือสีลมมากนัก หรือจะเลือกโซนริมสวน เพื่อมาคุยงาน ประชุมทีมงานหรือนำเสนองานก็สะดวก บริการอาหารรสชาติดี มีทั้งอาหารไทย  จีน  ญี่ปุ่น และยุโรป หรือโซน อาหารทะเลสดใหม่ ตั้งไว้ให้ท่านเลือกอยู่ที่เคาท์เตอร์ยาว โดยจะมีครัวแบบเปิด โชว์การปรุงอาหารแบบสุกใหม่ ๆ ให้ท่านได้ลิ้มลอง

เมนูขึ้นชื่อของร้านนี้จะมี ขันโตกกู๊ดวิว เป็นอาหารเหนือที่นำมาเสิร์ฟในขันโตก ซึ่งภายในขันโตกจะมีน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง แคปหมู หมูยอ ไส้อั่ว และผักสด ๆ เรียกว่ายกเอาอาหารและบรรยากาศสไตล์ล้านนามาให้ลิ้มรสกลางเมืองกรุง หรืออาหารอย่างอื่นเช่น ขาหมูเยอรมันขนาดจัมโบ้ ที่นำมาหมักกับเครื่องเทศ นำไปต้มและเอามาทอด จนได้รสชาติที่อร่อยเข้าเนื้อ ใครชอบปลาดิบก็มีซาซิมิรวม ที่มีทั้งปลาแซลมอน ปลาโอและปลาหมึกที่สดและแสนอร่อย เอาใจสายสุขภาพผู้ที่ชื่นชอบในเมนูอาหารญี่ปุ่น

ส่วนเมนูปลานั้น ขอแนะนำปลากะพงทอดสมุนไพร ซึ่งใช้ปลากะพงตัวโตมาราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษของทางร้าน เมื่อทานกับปลากะพงแล้วจะได้รสละมุน กลมกล่อม

สำหรับผู้ที่จะมาแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ทางร้านมีเครื่องดื่มไว้คอยบริการมากมาย ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่ 17.00 น. – 01.00 น. ทุกวัน บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา อาหารอร่อย ต้องที่ กู๊ดวิวบางคอแหลม

 

บ้านขนมไทย หวานหอมละมุม กับกลิ่นไอความเป็นไทยแท้

ขนมหรือของหวาน เป็นของกินเล่น กินเสริมมื้ออาหารสุดฮิตในทุกยุคทุกสมัย และยิ่งขนมไทยแล้ว มักจะมีรสหวานหอม นิยมปรุงจากแป้ง หรือข้าวผสมกับน้ำตาล บางชนิดมีกะทิเสริมความมันด้วย ซึ่งขนมหรือของหวานนี้มักจะเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ และสาว ๆ ซึ่งโดยแท้จริงแล้วขนมไทยในปัจจุบันมักจะได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ เช่น ประเทศโปรตุเกส อาหรับ  จีน และประเทศดินแดนเพื่อนบ้าน โดยแรกเริ่มขนมไทยแท้จะไม่มีส่วนผสมของไข่แดงและกะทิ จนกระทั่งมีการรับวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามา และที่ร้านบ้านขนมไทย ก็มีขนมไทยแท้ ๆ ให้คุณได้เลือกทานหลากหลายชนิด

สำหรับคนที่ชอบขนมไทย รู้หรือไม่ว่าขนมไทยนั้นจะบ่งบอกถึงความหมายในทางที่ดี เหมาะสำหรับงานมงคล เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ งานบวช งานมงคลสมรส เพื่อใช้เลี้ยงพระและแขกที่มาร่วมงาน ซึ่งขนมไทยมงคลด้านล่างนี้ มีจำหน่ายทุกวันที่ร้านบ้านขนมไทยแน่นอน

ขนมชั้น ขนมหวานนี้เหมาะกับงานขึ้นบ้านใหม่ หรือการรับตำแหน่งต่าง ๆ เพราะมีความหมายไปทางเจริญก้าวหน้า มีชั้นมีตำแหน่ง ซึ่งขนมชนิดนี้ทำมาจากแป้งและน้ำตาล ที่หยอดเรียงกันเป็นชั้น ๆ ถึง 9 ชั้น โดยใส่สีสันให้แต่ละชั้นต่างกันสวยงาม

ทองหยิบ เป็นขนมหวานที่ทำมาจากไข่เป็ด ที่เอาเฉพาะไข่แดงมาทำเป็นรูปดอกไม้อย่างสวยงาม โดยการทำขนมนี้จะได้รับอิทธิพลมาจากชาติโปรตุเกส ความหมายของขนมนี้คือความมั่งมีเงินทอง หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง เหมาะกับการเป็นของขวัญให้กับบุคคลที่เราเคารพนับถือ

ทองหยอด เป็นขนมหวานที่คล้ายกับทองหยิบ แต่จะมีรูปทรงกลม มีความหมายที่ดีในทางร่ำรวยเงินทอง

ฝอยทอง ขนมหวานที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติโปรตุเกสอีกชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นยาวพับเรียงกันเป็นจับ ๆ และด้วยลักษณะขนมเป็นเส้นยาวนี่เอง จึงนิยมนำมาใช้ในงานมงคล โดยมีความหมายว่ามีชีวิต มีความสุขที่ยืนยาวนานนั่นเอง

ขนมเม็ดขนุน จะเป็นขนมอีกอย่างนึ่งที่คล้ายกับขนมทองหยอด มีทรงกลมแต่แตกต่างที่มีใส้เป็นถั่วกวน แต่บางพื้นที่จะใช้เผือกนึ่งสุกอีกอย่างหนึ่งเป็นใส้ ซึ่งความหมายขนมนี้คือ จะมีแต่คนหนุนนำ สนับสนุนด้านต่าง ๆ

บ้านขนมไทยตั้งอยู่ที่โคราช ในซอยตรอกจันทร์ ถ้ามาจากถนนมิตรภาพเมื่อผ่านแยกไฟแดงบิ๊กซี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรอกจันทร์ร้านอยู่ซ้ายมือ  ซึ่งร้านบ้านขนมไทยเปิดกิจการมากว่า 50 ปีแล้ว เปิดตั้งแต่ 8.00 น. – 17.00 น. ร้านบ้านขนมไทยมีขนมให้เลือกทานหลากหลาย บรรยากาศดี สามารถนั่งทานได้ที่ร้าน หรือจะสั่งกลับไปทานที่บ้านเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือก็ได้ ยังมีบริการให้เลือกสั่งขนมเพื่อใช้ในพิธีงานมงคลต่าง ๆ หรือเป็นของว่างพักเบรคในระหว่างการประชุมสัมมนาก็สะดวก ดูดีไปอีกแบบ หากำลังหาร้านขนมไทยที่โคราช แวะที่บ้านขนมไทยอร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน

 

ร้านท่านหญิง อาหารไทยชาววังรูปสวยรวยรส

อาหารไทยชาววัง เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นและประณีตบรรจง เริ่มต้นตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การปรุง การหั่นส่วนผสม ลำดับการใส่ส่วนผสม หรือแม้กระทั่งการจัดจานเสิร์ฟ ซึ่งอาหารชาววังนั้น เดิมที่จะมาจากหญิงไทยชั้นสูงที่มีฝีมือ ได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็กจากในรั้วในวังเท่านั้น และอาหารต้นตำหรับชาววังจะมีหลายอย่าง และอาหารจะมีรสกลมกล่อมที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมชวนทาน เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์มาตรฐานของอาหารไทยชาววังก็ว่าได้

อาหารชาววังจากหลักฐานแรกที่เราเห็นการบันทึกไว้ มีมาตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงได้ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ รวมถึงอาหารตำหรับชาววังของยุคกรุงศรีอยุธยา จากนั้นเป็นต้นมาอาหารชาววังก็เป็นที่นิยม และมีการเสวยในวัง โดยผู้ที่ปรุงหรือรังสรรค์อาหารไทยชาววังคือฝ่ายใน หรือลูกหลานขุนนางหรือเจ้านายฝ่ายหญิง ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนในด้านอาหารมาอย่างดี สตรีที่ถวายตัวเพื่อทำอาหารชาววังในรั้วในวัง จะถูกเรียกว่า “เครื่องต้น” มีหน้าที่ปรุงอาหารให้เจ้านายในวัง รวมถึงพระมหากษัตริย์ อีกด้วย ซึ่งถ้าเครื่องต้นมีฝีมือในการทำอาหารชาววังเป็นที่โปรดปราน อาจจะได้รางวัลหรือเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง และในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้ทรงพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน โดยทรงพรรณนาถึงอาหารคาวหวาน และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี นางผู้เป็นที่รักของพระองค์ โดยนำเอาอาหารและความสัมพันธ์มาประกอบเข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่าในอดีตที่ผ่านมา อาหารไทยชาววังเป็นสิ่งที่หาทานได้ยากสำหรับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในสมัยนี้เรามีโอกาสลิ้มรสได้เยอะขึ้นมาก

ถึงตอนนี้หลายคนที่อ่าน คงคิดว่า สงสัยจะสิ้นหวังแล้วหากจะกินอาหารไทยชาววัง แต่ช้าก่อนในใจกลางกรุงเทพมหานคร มีร้านอาหารชาววังแท้ ๆ ชื่อว่า “ร้านท่านหญิง” ตั้งอยู่ที่สีลมซอย 17 และ บางรัก 19 โดยอาหารที่เรียกว่าเป็นเป็นเมนูเด่นคือ ข้าวแช่ ซึ่งจะมีให้ลิ้มรสในฤดูร้อนเท่านั้น กลิ่นหอม ทานคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ อย่างเช่น ลูกกะปิทอด หมูหวานฝอย  เป็นอาหารที่มีวิธีการทำค่อนข้างเยอะ ประณีต เป็นรสชาติต้นตำหรับแท้ ๆ

นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ให้ลอง อาทิเช่น มัสมั่น แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนู แกงกะหรี่ ผัดไทยกุ้งสด เมี่ยงคำ ยำถั่วพรู กระทงทอง ถุงทองทอดกรอบ ๆ นอกจากอาหารคาวแล้ว ร้านท่านหญิงก็ยังมีอาหารหวานทั้งในแบบตะวันตกและแบบขนมไทย เช่น ไอติมกะทิสดกับฟักทองนึ่งที่อร่อยมาหวานหอมและมัน  ผลไม้สด เมนูชาววังร้านนี้ มีราคาที่เราสามารถจับต้องได้ ไม่แพงอย่างที่คิด เหมาะสำหรับพาครอบครัวหรือคุณพ่อคุณแม่มาทาน มาสัมผัสอาหารต้นตำหรับไทยแท้ที่ร้านท่านหญิง

 

อาหารสไตล์เกาหลีที่อันยอง โคราช

อินเตอร์เน็ตถูกใช้กันอย่างแพร่หลายไร้พรมแดน ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมจากประเทศอื่น ๆ มากขึ้น เกาหลีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยให้ความสนใจ เพราะศิลปิเกาหลีก็ได้สร้างแรงบัลดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คน กระแสเกาหลีเข้ามามีบทบาทในไทยมากขึ้น ทั้งเพลง ทั้งซีรีย์ การแต่งกาย รวมถึงร้านอาหารเกาหลีที่ผุดขึ้นให้เราได้เลือกทานมากมาย

ประเทศเกาหลีเป็นประเทศเกษตรกรรม มักมีผักสด ผลไม้สด มาประกอบในอาหารแทบทุกเมนู ในแต่ละมื้อประกอบด้วย ข้าว ซุป และมีผักดองที่ขึ้นชื่อเป็นที่รู้จักกันดีว่า “กิมจิ” มักจะถูกเสิร์ฟมาพร้อมอาหารบนโต๊ะทุกครั้งที่ทานอาหารเกาหลี จะว่าไปก็คล้ายน้ำพริกกะปิของบ้านเรา ที่มีติดบ้านเกือบทุกหลัง
ร้านอาหารเกาหลีในไทยส่วนใหญ่จะประกอบด้วยเนื้อสัตว์นานาชนิด มาคู่กับผักสด เป็นเมนูที่จัดสรรค์โดนใจคนไทย  และที่ร้านอันยอง โคราช เป็นร้านหนึ่งที่มีรสชาติและเมนูอาหารที่ไม่แตกต่างจากร้านอาหารในประเทศเกาหลีเลย ร้านนี้มีการเสิร์ฟ บันซัน คือ เครื่องเคียงจานเล็ก ประกอบด้วยผักลวกคลุกงา ถั่วแดงต้มโรยน้ำตาล ยำสาหร่าย และกิมจิ ยังมีสลัดเกาหลีที่เติมได้ตลอดแบบไม่อั้นอีกด้วย

ร้านอันยอง โคราช ตั้งอยู่ที่ 564 ถนนสืบศิริ ซอย 3 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งโลเคชันหาง่ายมาก เพราะร้านอยู่ตรงข้ามโรมแรมรายาแกรนด์ แยกชลประทาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารเกาหลี พบปะสังสรรค์ เป็นกลุ่ม หรือจะพาครอบครัวลูกหลานมาทาน  มีทั้งรูปแบบปิ้งย่างและหม้อไฟ ยังให้คุณได้เลือกรับประทานบุฟเฟ่ต์ และ a la carte

หากคุณชอบทานบุฟเฟ่ต์ มีเมนูหมู ทั้งสามชั้น บูลโกกิ ไก่ ปลาหมึก ไส้กรอก เห็ด  ปิ้งย่างทานกับผักสด พร้อมน้ำจิ้ม 2 แบบ  คือ ซอสพริกเกาหลีและซอสน้ำมันงาสไตล์เกาหลี จัดมาแบบสุดคุ้มราคาไม่แพง ให้เวลาในการทาน 2 ชั่วโมง

แต่ถ้าหาคุณชอบทานแบบ a la carte ทางร้านก็มีเมนูหลากหลาย เช่น บิงชูหม้อไฟและหม้อไฟมินิ  ข้าวหน้าไก่/หมู/เนื้อเกาหลี  บะหมี่ดำ ข้าวยำเกาหลี  ข้าวหมู/ไก่ผัดเผ็ด  ข้าวผัดจาจาง ผัดวุ้นเส้นเกาหลี  บะหมี่ทรงเครื่อง มาม่าเกาหลี  ซุปก็มีให้เลือกทานอย่างคล่องคอ ทั้ง ซุปเต้าหู้ ซุปสาหร่าย ซุปกิมจิ ซุบเต้าเจี้ยว ตบท้ายด้วยของหวานเป็นไอศกรีมแสนอร่อย อีกสักถ้วยยังได้

ถ้าแค่อยากกินอาหารเกาหลี แล้วต้องไปเกาหลี ก็มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าที่พัก ค่าทัวร์ ลองแวะมาโคราชแทน ซึ่งก็มีร้านอาหารเกาหลีอร่อย ๆ บรรยากาศในห้องแอร์เย็นฉ่ำ พร้อมกับเพลิดเพลินกับอาหารหลากหลาย พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสบริการอย่างเป็นกันอง ถ้าต้องการดื่มสนุก ๆ ทางร้านก็มีเบียร์ไว้คอยบริการด้วย ร้านเปิดทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 16:00 น. – 22:00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 น. – 22:00 น. จอดรถที่หน้าร้านได้เลย ร้านนี้ช่วงเย็นคนแน่นร้านมาก นั่นบ่งบอกถึงความนิยมในอาหารเกาหลีที่มากขึ้น และยังบ่งบอกถึงความอร่อย คุณภาพคุ้มราคา

 

อาหารทะเลบรรยากาศสุดฟินริมทะเล ครั้งหนึ่งในชีวิต @สุดทางรัก พัทยา

พัทยาเมืองไม่เคยหลับไหล เพียงได้ยินเสียงคลื่นทะเลก็ช่วยให้คลายความเหนื่อยล้าได้ พักสมองกับการฟังคลื่นสายลม แสงแดดอบอุ่น พัทยาเมืองที่ปกครองรูปแบบพิเศษ มีนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ หลายภาษ าเดินทางมาท่องเที่ยวตลอดเวลา ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรมที่พัก รวมถึงสถานบันเทิง เปิดรองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง พัทยาตั้งอยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ห่างจากกรุงเทพมหานคร ด้วยระยะทางเพียง 140 กิโลเมตรเท่านั้น พัทยาแบ่งเป็น พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน

ริมทะเลมีร้านอาหารหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารตะวันตก อาหารยุโรป หรืออาหารเอเชีย มีให้เลือกกันเยอะแยะมากมายไปหมด แต่มาถึงทะเลทั้งที ก็ต้องได้ทานอาหารทะเล หากยังไม่รู้จะไปร้านไหน เราแนะนำ ร้านอาหารที่มีเมนูให้เลือกแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อาหารทะเลสด ๆ อาหารไทย  อาหารญี่ปุ่น และเครื่องดื่มมากมาย จะชอบในรูปแบบสังสรรค์มากับครอบครัว มากับเพื่อน มากับคนรัก หรือคนพิเศษของคุณ “ครั้งหนึ่งในชีวิต @สุดทางรัก พัทยา” ก็พร้อมให้บริการ

ครั้งหนึ่งในชีวิต @สุดทางรัก พัทยา ตั้งอยู่เลขที่ 99 หมู่ 1 ถนนเลียบหาดจอมเทียน ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร้านเปิดบริการทุกวัน โดยวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี เวลา 11:00-00:00น. วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 11:00-00.30 น. ร้านหาง่ายมาก เพราะอยู่สุดหาดจอมเทียน บรรยากาศดีมาก มีโซนรับลมทะเลและโซนส่วนตัวที่เป็นห้องแอร์ ยังมีโซนบาร์ ที่ให้บริการเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ ได้จิบเบา ๆ ชมพระอาทิตย์ตกแสนสุขใจ

สำหรับอาหารทะเลสดใหม่ที่เป็นเมนูแนะนำ อย่างเช่น แกงส้มไข่ปลาเรียวเชียวร้อน ๆ  ปูม้านึ่งเนื้ออวบแน่น ๆ  กั้งกระดานทอดกระเทียมตัวโต ๆ  ยำปลาแซลมอน กุ้งมังกรวาซาบิ หอยหวานเผา ส่วนออเดิร์ฟเป็นผลไม้ตามฤดูกาลกับโรตีกรอบ โรตีกรอบร้านนี้อร่อยมาก โรตีแผ่นบางเสิร์ฟกับนมข้นหวานที่ตีฟองนุ่มหวานมันลงตัวสุด ๆ  มีดนตรีเล่นสดทุกคืน ที่จอดรถก็สะดวก และพิเศษสุดร้านนี้มีทางหนีเมีย เป็นมุขตลกของทางร้านด้วย ห้องน้ำก็สะอาด มีเพียงพอไม่ต้องรอคิว และถ้าหากไม่สะดวกมาทานที่ร้าน ทางร้านก็มีบริการ Delivery ตั้งแต่12:00 น. – 21:00 น. บริการส่งถึงที่พักทั่วพัทยา ถือว่าสะดวกจริง ๆ

เขาว่ากันว่าเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่เราก็หาความสุขกลับมาอีกครั้งได้ไม่ยาก สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ วันหยุดที่จะถึงนี้แพ็คกระเป๋ามาเที่ยวทะเลกันไหม? มาฟังเสียงคลื่น มานั่งกินอาหารทะเลอร่อย ๆ มากับครอบครัวกระชับความสัมพันธ์ หรือจะมาเฮฮากับเพื่อนฟูงเม้ามอยสนุกสนาน หรือพาคนรักมาสวีทหวานหน่อย สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารสุดแซ่บที่พัทยายังมีอีกเพียบ แต่ครั้งนึงในชีวิต @สุดทางรัก ที่ชีวิตนึงต้องมาสักครั้ง จะได้รู้สุดทางรักเป็นอย่างไร