The Sportsman Bar & Restaurant สปอร์ตบาร์ที่ตอบทุกโจทย์ของแฟนกีฬา

หากคุณเป็นคอกีฬาที่กำลังมองหาสถานที่นัดรวมตัวแฮงค์เอาท์กับกลุ่มเพื่อนเพื่อเชียร์ทีมรัก The Sportsman Bar & Restaurant คือคำตอบของคุณ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการเชียร์กีฬาประเภทไหน สปอร์ตบาร์แห่งนี้ก็พร้อมช่วยให้คุณได้ติดตามชมการถ่ายทอดสดอย่างใกล้ชิดจนจบการแข่งขัน

The Sportsman Bar & Restaurant ตั้งอยู่ที่เทรนดี้ คอนโดมิเนียม ภายในซอยสุขุมวิท 13 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสปอร์ตบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 400 คน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนถึงตี 2 ซึ่งการเปิดให้บริการแต่เช้านี้เอง ทำให้แฟนกีฬาสัญชาติอเมริกันอย่างบาสเกตบอล NBA, มวย UFC, ฮอกกี้ NHL, ฟุตบอล MLS, เบสบอล MLB, อเมริกันฟุตบอล NFL รวมไปถึงศึก Super Bowl สามารถนัดรวมตัวชมการแข่งขันกันไปพร้อมกับการสังสรรค์ได้เป็นหมู่คณะ

The Sportsman เป็นบาร์ขนาด 2 ชั้น ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีดำและสีแดง มีโต๊ะที่นั่งทั้งแบบโซฟา และเก้าอี้กลม โดยบริเวณรอบตัวร้านมีการติดตั้งจอโปรเจคเตอร์แบบเอชดีจำนวน 8 ตัว และโทรทัศน์แอลอีดีอีก 26 เครื่อง เพื่อทำการถ่ายทอดสดกีฬายอดนิยมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลทุกลีกดัง, รักบี้, เทนนิส, กอล์ฟ, มวยสากล, วอลเลย์บอล, คริกเก็ต, มอเตอร์สปอร์ต และอเมริกันเกม รวมไปถึงมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะนั่งอยู่ส่วนไหนของร้าน แถมยังติดตามรับชมได้มากกว่าหนึ่งชนิดกีฬาอีกด้วย นอกจากนั้นทางร้านยังจัดได้เตรียมโต๊ะพูลไว้รองรับลูกค้าถึง 15 โต๊ะครอบคลุมทั้ง 2 ชั้น โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ 200 บาท แถมยังจัดโซนปาลูกดอกจำนวน 5 เป้า ซึ่งทางร้านได้จัดทัวร์นาเมนต์ปาลูกดอกเป็นประจำทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ทางร้านได้เตรียมเบียร์หลากหลายยี่ห้อไว้ให้ลูกค้าได้เลือกตามต้องการ คุณจะไม่พลาดการดื่มด่ำเบียร์รสชาติโปรดไปพร้อมการเชียร์ทีมรักอย่างแน่นอน แถมยังมีรายการอาหารนับ 100 เมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยยอดนิยมอย่างผัดไทย, ราดหน้า, ผัดกระเพรา หรือแกงเขียวหวาน รวมไปแกงสไตล์อังกฤษ, สลัด, แซนวิช, พิซซ่าหลาย 10 หน้า และของหวานอีกหลายรายการ

การเดินทางมายังร้านก็แสนสะดวกสบาย เพราะปากซอยสุขุมวิท 13 อยู่ใกล้กับ BTS สถานีนานา เดินตรงเพียง 200 เมตรจากปากซอยก็ถึงร้านแล้ว หากใครเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีอาคารจอดรถไว้รองรับ ซึ่งสามารถจอดได้ฟรี 2 ชั่วโมง โดยหากเดินทางมายังร้านในวันที่มีเกมการแข่งขันแมตช์สำคัญ สามารถโทรจองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้านไว้ก่อนเพื่อให้ได้ที่นั่งที่ดีที่สุดในการรับชมถ่ายทอดสด

ปกติแล้วนักท่องเที่ยวของ The Sportsman จะเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศภายในร้านเสมือนอยู่ในบาร์ต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีอัธยาศัยดีอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น เพราะกีฬาถือเป็นภาษาสากลอยู่แล้ว

Score Bar พิกัดแฮงค์เอาท์กลางกรุง สำหรับแฟนกีฬาตัวจริง

การรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลถือเป็นกิจกรรมประจำสัปดาห์ที่เหล่าแฟนบอลพันธุ์แท้จะไม่ยอมพลาด โดยเสน่ห์อย่างหนึ่งในการชมเกมคือ บรรยากาศความสนุกที่เพื่อนร่วมก๊วนคอยลุ้นและเชียร์ทีมโปรดไปพร้อม ๆ กัน บาร์จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าแฟนบอลเพื่อรับชมการแข่งขันไปพร้อมกับการแฮงค์เอาท์ แต่ร้านที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกิจกรรมของเหล่าแฟนบอลนั้นกลับมีอยู่น้อยมาก ซึ่ง Score Bar คือหนึ่งในนั้น

                Score Bar เป็นสปอร์ตบาร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในซอยสุขุมวิท 11 บนชั้น 2 โรงแรมแกรนด์เพรสซิเดนท์ ร้านตกแต่งโดยเลือกใช้สีเขียวเป็นสีหลัก เพื่อสื่อถึงสนามฟุตบอลหรือสนามกีฬาอื่น ๆ ผนังเป็นปูนเปลือยขัดมัน ตกแต่งด้วยภาพถ่ายกีฬาหลากหลายชนิด ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และอเมริกันฟุตบอล เพื่อย้ำว่าสถานที่นี้คือสปอร์ตบาร์ที่พร้อมต้อนรับแฟนกีฬาทุกประเภท ไม่แพ้เว็บไซต์ VWIN ที่ให้บริการเกมสนุก ๆ มากมายเช่นกัน แต่กรอบรูปที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น กรอบบรรจุเสื้อพร้อมลายเซ็นของไรอัน กิ๊ก ปีกพ่อมดชาวเวลล์ นักฟุตบอลระดับตำนานในยุค 90 และยุคมิลเลนเนียม

                นอกจากจะเต็มไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้เพื่อรองรับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยจอโทรทัศน์ที่ไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหนของร้านก็สามารถรับชมการแข่งขันได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องเสียอรรถรสไปกับการถูกบดบังทั้งจากนักท่องเที่ยวคนอื่นและเสาอาคาร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกเล่นเป็นหมู่คณะระหว่างรอชมการแข่งขัน เช่น ฟุตบอลโต๊ะ พูล ปาลูกดอก ถังโจรสลัด เบียร์ปอง และรูเล็ตแก้วช็อต โดยสามารถชวนพนักงานสาว ในร้านมาร่วมเล่นด้วยได้

                ภายในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มหลากหลายชนิดตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ วิสกี้ บรันดี รัม จิน ไวน์ วอดก้า เตกีล่า ค็อกเทล รวมไปถึงชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีอาหารว่างและอาหารจานหลักหลากหลายสัญชาติไว้คลายหิว ทั้งข้าวผัด พาสต้า เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และไก่ทอดที่มีให้เลือกมากถึง 15 รสชาติ

                จุดเด่นอีกข้อของ Score Bar คือการเดินทางที่สะดวกสบาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วย BTS สามารถลงรถไฟฟ้าที่สถานีนานา ประตู 3 หน้าปากซอยสุขุวิท 11 จากนั้นเดินเข้าซอยเพียง 300 เมตรก็จะพบกับร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ขับรถส่วนตัวสามารถจอดรถไว้ที่อาคารจอดรถของโรงแรมแกรนด์เพรสซิเดนท์ ซึ่งรองรับรถยนต์ได้อย่างเพียงพอ และสามารถนำบัตรจอดรถมาประทับตรากับทางร้านเพื่อรับสิทธิจอดรถฟรี 12 ชั่วโมง

Score Bar มักจัดกิจกรรมร่วมสนุกกับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ ทั้งแข่งขันพูลชาเลนจ์ แข่งขันกินไก่ทอด หรือแม้แต่ศึกท้าดวลเตกีล่าปอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับคำท้าได้ตามความถนัด และพิเศษสุดสำหรับแฟนบอลปีศาจแดง ในทุก ๆ เดือน Score Bar มักถูกเลือกให้เป็นสถานที่รวมตัวของแฟนบอล หากคุณเลือกมาตรงกับวันที่แมนฯ ยูไนเต็ดลงทำการแข่งขัน คุณอาจได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร้องเพลง “กลอรี่ กลอรี่ แมนฯ ยูไนเต็ด” จนลั่นร้าน

ชวนไปนั่งชิลที่ร้านกินดื่มสุดชิล บรรยากาศคึกคักที่ใจกลางกรุงเทพฯ Kenshin Izakaya

ในประเทศญี่ปุ่นจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่มากมายหลายแบบไม่ต่างจากบ้านเราเลย อีกหนึ่งรูปแบบของร้านอาหารที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก็คือร้านแบบ Izakaya คือร้านเหล้าหรือร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นนั่นเอง เพราะว่าวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้นจะดื่มเหล้าเพื่อสังสรรค์หลังเลิกงานเป็นประจำ จึงทำให้ร้านแบบนี้ฮอตติดลมบน จนเข้ามาถึงประเทศไทยนั่นเอง

โดยร้านแบบนี้จะเป็นร้านที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ตกแต่งเป็นโทนสีสันฉูดฉาด บนพนังจะมีการติดชื่อเมนูเอาไว้ พร้อมกับราคา ซึ่งส่วนมากจะเป็นเมนูอาหารประเภทกับแกล้ม เอาไว้ทานกับเหล้า เบียร์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ ที่มีให้เลือกดื่มกันแบบจุใจนั่นเอง แต่หากไม่อยากจะทานเหล้า ทางร้านก็จะมีบริการชาและน้ำผลไม้ ไปจนถึง Soft Drink ดังนั้นผู้ที่ไม่ชอบดื่มจึงไม่ต้องห่วงเลย และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่จะขาดไปไม่ได้เลยในร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นก็คือโต๊ะไม้ ซึ่งมีถังสำหรับนั่ง ตามความต้องการที่อยากจะให้ร้านจุคนได้เยอะ ๆ ในพื้นที่ที่จำกัดนั่นเอง โดยการจัดร้านแบบนี้จะทำให้ร้านมีความครึกครื้นและสนุกสนาน ยิ่งดึกยิ่งดี ไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อมาถึงประเทศไทย ร้าน Izakaya จะหลายเป็นที่นิยมอย่างฉุดไม่อยู่ จนตอนนี้มีหลายร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการแบบ Izakaya ให้ชาวไทยเราได้สังสรรค์กับเพื่อนได้ตามอัธยาศัย

มาถึงร้านที่เราจะแนะนำกันบ้าง นั่นก็คือร้าน Kenshin Izakaya ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกินดื่มแบบดั้งเดิมใจกลางย่านอโศก กรุงเทพฯ ตัวร้านมีรูปแบบการตกแต่งแบบญี่ปุ่น ได้อารมณ์เหมือนไปนั่งทานอาหารที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเมนูที่มีมากมายหลายหลาย ทั้งทานเป็นมื้ออาหารและกับแกล้ม พร้อมด้วยเมนูแอลกอฮอล์แบบญี่ปุ่นที่น่าตื่นตาตื่นใจสุด

เรามาดูกันที่ไลน์อาหารกันบ้าง นอกจากพวกซูชิ ชาซิมิ โรลและมากิแบบต่าง ๆ ตามมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอาหารจำพวกของทอดอย่างเทมปุระ และไก่คาราอะเกะ มีของต้มร้อน ๆ อย่างสุกี้ยากี้หมูและเนื้อ นาเบะหม้อไฟกิมจิไก่ (Kimuchi Nabe Tori) ไปจนถึงอุด้ง อาหารสไตล์กับแกล้มอย่างยากิหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาหารเสียบไม้ทอด ส่วนเมนูที่อยากจะแนะนำเลยก็คือคอหมูย่างเกลือพริกไทย (Tontoro Shio Yaki) ข้าวผัดกระเทียม ปลาหมึกวาซาบิ ชีสญี่ปุ่นกับทูน่า (Okinawa Cream Cheese) และหอยนางรมทอด

มาถึงไฮไลท์ของร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นกันบ้าง ก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง ทางร้านมีเบียร์หลายสูตร ถูกใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สำหรับคุณผู้ชายขอแนะนำเบียร์ลูกผู้ชายหรือเบียร์อาซาฮี ซึ่งมีให้เลือกหลายไซส์และเหล้า Sanctuary ผสมโซดาและมะนาวกลมกล่อม ส่วนสำหรับคุณผู้หญิงต้องขอแนะนำเบียร์ลาเวนเดอร์ เบียร์ซากุระและเบียร์มะเขือเทศ ซึ่งมีรสกล่อมกล่อมมาก ๆ อย่างไรก็อย่าดื่มเยอะ กลับบ้านปลอดภัยนะ

ร้าน Kenshin Izakaya มาไม่ยาก ตั้งอยู่บนปากซอยสุขุมวิท 33 หากขับรถมา ก็สามารถจอดรถได้ที่ตึก ubcII ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน จอดได้ฟรี 1 ชั่วโมง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 – 00.00 น. โทรศัพท์ 02-661-6202 Facebook: Kenshin Izakaya ร้านอาหารญี่ปุ่น เคนชิน อิซากายะ

ชวนไปฟินกันที่ Copper Buffet บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ คุ้มค่าและมีระดับน่าลิ้มลอง

อาหารบุฟเฟต์นานาชาติเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาร้านอาหารดี ๆ ไว้ทานกับครอบครัวหรือคนพิเศษในวันที่พิเศษ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาร้านบุฟเฟต์นานาชาติที่ราคาเหมาะสม แถมคุณภาพดีเยี่ยม เราขอแนะนำร้าน Copper Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติที่ปิ่นเกล้า ที่หากได้ลองไปทานสักครั้ง รับรองว่าติดใจอย่างแน่นอน

Copper Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติเกรดพรีเมียมที่มีราคาหลักร้อย ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด Copper Buffet เป็นร้านอาหารบุฟเฟต์ที่มีราคาเพียง 987 บาทเท่านั่น โดยในบุฟเฟต์จะรวมด้วยอาหารนานาชาติ ปรุงจากวัตถุดิบนำเข้าจากทั่วโลก ปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมเสิร์ฟลูกค้า มีอะไรกันบ้าง ตามมาดูเลย

ขอเริ่มในส่วนของอาหารญี่ปุ่น ทางร้านมีทั้งซูชิหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นซูชิหน้าเนื้อวากิว ซูชิหน้าปลาแซลมอนทั้งแบบสดและแบบเบิร์นให้สุดเล็กน้อย ราดด้วยซอสมากมายที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี และซูชิปูอัด ส่วนซาซิมิ ก็มีทั้งปลากะพง ปลาแซลมอนที่เลือกได้หากจะเอาส่วนท้อง ซึ่งมีความมันกว่าส่วนอื่น ๆ ปูอัดและไข่หวาน รวมไปถึงของทอดอย่างปลาไข่ทอดและกุ้งเทมปุระ

มาถึงในโซนอาหารยุโรปกันบ้าง ทางร้านมีให้เลือกอย่างละลานตาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสปาเก็ตตี้เส้นดำซีฟู้ด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ผัดร้อน ๆ บนจานชีส ซึ่งจะทำให้สปาเก็ตตี้มีกลิ่นหอมมากและมีรสชาติอ่อน ๆ ของชีส และซุปเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลที่หอมมากจนแทบจะอดใจไม่ไหวจนต้องขอเติมอีกสักถ้วย อีกยังยังมีสเต็กเนื้อวากิว สเต็กเนื้อแกะและเนื้อซี่โครงนุ่ม ๆ ไม่เหนียว ให้ทานเพิ่มโปรตีนกันด้วย ยังไม่พอ ทางร้านยังมีอาหารประเภทสลัดและ Cold Cut

ไลน์อาหารทะเลก็มีหลากหลายเช่นเดียวกัน ทั้งหอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียงอย่างกระเทียมทอดและพริกเผา มีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และกุ้ง พร้อมด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านและสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ก็มีอาหารไทยให้เลือกทานกันอย่างจุใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยกุ้งแม่น้ำสด ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อวากิวและหมูและไก่ทอด

อีกไลน์หนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กับไลน์อื่นเลยก็คือของหวาน เพราะมีทั้ง Chocolate Lava, Panna Cotta, Cream brulee, Toast ต่าง ๆ และไอศกรีมรสชาติต่าง ๆ ทำสดเรื่อย ๆ ตามสั่ง จึงสดใหม่ ร้อน อร่อยมากจริง ๆ

ร้าน Copper Buffet ตั้งอยู่บนชั้น 2 โครงการ The sense ปิ่นเกล้า เวลาในการทานของร้านจะเปิดเป็น 4 รอบ ก็คือ รอบที่ 1 ตั้งแต่ 11.00 – 13.00 น. , ต่อมาคือตั้งแต่ 13.30 – 15.30 น. รอบที่ 3 ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น. และรอบที่ 4 ตั้งแต่ 19.30 – 21.30 น. หากต้องการจะมาทาน ควรต้องโทรมาจองที่นั่งก่อน นอกจากนั้นทางร้านยังเปิดให้สมัครสมาชิก เพื่อรับส่วนลดหัวละ 200 บาท พร้อมเมนูพรีเมียมประจำเดือนอาทิเช่น ตับห่านฟัวกราส์หรือกุ้งล็อบสเตอร์สดและหวานกรอบ โทรศัพท์ 092-281-1818, 098-824-1800 Facebook: Copper Buffet

แนะนำร้านชาบูซูชิสุดคุ้มและน่ารักที่ใคร ๆ ก็ชอบ Penguin Eat Shabu

ชาบูเป็นอาหารที่ทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มีจุดเด่นที่รสชาติเข้มข้นของน้ำซุปที่มีให้เลือกหลากหลายตามใจชอบ ตั้งแต่รสชาติหอมกรุ่นสไตล์ญี่ปุ่น ไปจนถึงรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทย และยิ่งมีน้ำจิ้มเด็ดแล้ว ขอบอกว่าต้องเติมเนื้อและผักรัว ๆ เลยล่ะ เราจะมาแนะนำร้านชาบูแสนอร่อย ที่มีจุดเด่นที่เป็นบุฟเฟต์และมีอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิรวมอยู่ในเมนูกันบ้าง รับรองว่าคุ้มสุดแถมยังถูกปากทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน

Penguin Eat Shabu เป็นอีกร้านชาบูหนึ่งที่เปิดและก้าวเข้ามาในตลาดร้านชาบูที่มีการแข่งขันกันสูงมาก แน่นอนว่าร้านนี้ต้องมีดี ถึงได้เปิดทำการมาได้หลายปี แถมยังมีการขยายสาขาด้วยนะ โดยทางร้านเป็นร้านชาบูแบบฟิวชั่น ตกแต่งแบบสบายตาและมีโทนสีที่เห็นแล้วครึกครื้นอย่างสีเหลือง และมีตุ๊กตาเพนกวินตัวน้อยตกแต่งอยู่ในร้าน ถูกใจคุณหนู ๆ เป็นที่สุด อีกทั้งยังมีสโลแกนเจ๋ง ๆ อย่าง “ไม่อร่อยให้ต่อยเพนกวิน” ต่างก็เป็นจุดเด่นที่ทำให้บรรดาลูกค้าจดจำร้านนี้ได้นั่นเอง

ในส่วนของเมนู ทางร้านมีด้วยกันหลายเรทราคาด้วยกัน นั่นก็คือ 359, 459, 659 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นราคา Net แล้ว ไม่มีการบวกเพิ่ม ไฮไลท์ก็คือในส่วนของเมนูบุฟเฟต์ราคา 659 บาท Net จะมีเนื้อวากิวหอมนุ่มละลายในปาก มีทั้งส่วนริบอาย พับใน ลูกมะพร้าวและเนื้อน่องลาย โดยทางร้านบอกว่าเนื้อวัววากิวที่ใช้ในร้านเป็นเนื้อวัววากิวจากญี่ปุ่น ให้ทานยอดข้าวและเลี้ยงให้กินและนอน แบบไม่ต้องทำอะไร จึงทำให้เนื้อมีไขมันแทรกเยอะเป็นพิเศษ มีกล้ามเนื้อน้อย ทำให้ไม่เหนียว อร่อยสุด ๆ แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าเวลาที่สั่งอาหารแล้วอาจจะต้องรอช้าสักหน่อย แต่ขอให้อย่าเพิ่งโมโห เพราะทางร้านเค้าจะนำเนื้อก้อนมาหั่นตามที่สั่ง เพื่อไม่ทำให้เนื้อแห้งและทำให้เนื้อหวานนุ่ม อร่อย นั่นเอง และสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อ ก็สามารถสั่งเนื้อหมูได้ มีทั้งหมูสันนอก สันคอและหมูสามชั้น เวลาจุ่มลงในน้ำซุปใสจากกระดูกไก่และน้ำซุปดำต้มจากปลาโอญี่ปุ่นตากแห้ง ขอบอกว่าแซ่บแน่นอน และสำหรับไลน์อาหารทะเล ก็มีทั้งปลาแซลมอน กุ้งทะเลและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์สด ๆ เลือกกันไม่ถูกเลย

อาหารญี่ปุ่นยังเป็นอีกตัวชูโรงของทางร้าน โดยทางร้านจะมีซูชิวากิว วากิวโรล และแซลมอนโรล พร้อมด้วยซูชิหน้าปลาแซลมอนที่ปรุงรสด้วยซอสต่าง ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ทานเพลินจนอาจจะลืมจุ่มหมูลงไปในน้ำซุปเลยทีเดียว

กลับมาดูที่น้ำจิ้มกันบ้าง ของทางร้านจะมีน้ำจิ้มอยู่ด้วยกันสองสูตร ก็คือน้ำจิ้มพอนสึแบบญี่ปุ่นและน้ำจิ้มสุกี้รสชาติจัดจ้าน หากยังไม่พอใจ สามารถนำพริก กระเทียมและมะนาวของทางร้านมาปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ

ร้าน Penguin Eat Shabu มีอยู่ด้วยกันหลายสาขาสะพานควาย, สาขา J-arena ราชพฤกษ์, สาขา C.P. Tower และสาขา Terminal 21 ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. – 20.00 น. Facebook: Penguin Eat Shabu – เพนกวินกินชาบู

ไปลองอาหารญี่ปุ่นพรีเมียม รสชาติจัดจ้านแถมยังราคาดีดีที่ Kabocha Sushi

อาหารญี่ปุ่นเป็นอาหารที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอร่อยและค่อนข้างจะถูกปากคนไทย เพราะมีรสชาติออกเค็ม ๆ หวาน ๆ จัดจ้านด้วยความหอมของวาซาบิ จึงถึงใจใครหลาย ๆ คนได้ไม่ยาก ในบ้านเราเองก็มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากมายหลายสไตล์ทั้งอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมไปจนถึงญี่ปุ่นที่ฟิวชั่น ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ไปจนถึงหลายเรทราคาขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาใช้ปรุงอาหาร โดยวันนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นเกรดพรีเมียมในราคาเอื้อมถึงได้ พร้อมด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปากคนไทยเป็นที่สุด นั่นคือร้าน Kabocha Sushi

ร้าน Kabocha Sushi เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีหลายสาขาในกรุงเทพฯ โดยแต่ละสาขาจะเป็นร้านที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ขอบอกว่าคนแน่นทุกร้าน เพราะร้านเค้าดีงามจริง ๆ ด้วยการที่มีโปรโมชั่นสุดคุ้ม คืนความสุขให้กับลูกค้าตลอด ๆ แถมยังมีอาหารญี่ปุ่นจากวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ผ่านคำเคลมของทางร้านที่ว่าสดอร่อยเหมือนไปทานที่ตลาดปลาในกรุงโตเกียวเลยทีเดียว

เมื่อเข้ามาในร้าน ทางร้านจะมีของว่าง เป็น Complimentary ให้ทานเล่นระหว่างที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่นโยบายของทางร้าน เพื่อไม่ให้ลูกค้าเบื่อนั่นเอง ส่วนมากก็จะเป็นกระดูกปลาทอดและถั่วแระญี่ปุ่นเม็ดอวบ ไม่เค็ม ซึ่งมันส์และทานเพลินมาก ๆ นอกจากนั้นทางร้านก็ยังจะให้ซุปมิโซะรสชาติกลมกล่อมกับลูกค้าไว้ซดให้คล่องคอ 1 ถ้วยอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นการอุ่นเครื่องที่ดีทีเดียว

สำหรับไลน์อาหารญี่ปุ่นของทางร้านก็มีมากมายหลากหลายให้เลือกทาน ไม่ว่าจะเป็นซูชิหน้าปลาสดต่าง ๆ ซูชิ มากิ ข้าวดงบุริต่าง ๆ ทั้งข้าวหมูทอด ปลาย่าง หน้าไคเซ็นด้ง เทมปุระต่าง ๆ ทั้งกุ้งและผัก หมูทงคัตสึ หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ้ว ราเมนและอุด้ง ไม่ว่าคุณจะชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์ไหน ที่ร้านนี้ก็พร้อมจะตอบโจทย์ลูกค้าทุกท่าน

เมนูที่โดดเด่นและแนะนำเลยสำหรับผู้ที่มาทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านนี้ก็คือสลัดปลาเงิน โดยเค้าจะนำปลาเงินหรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่าปลา Shirauo ซึ่งมีลักษณะเป็นปลาตัวเล็ก ๆ นำมาทอดกรอบทั้งตัว ใส่ลงไปในจานสลัด ปรุงด้วยน้ำสลัดสูตรเฉพาะของทางร้านที่มีรสเปรี้ยวอมหวาน ขอบอกว่าทานกี่จานก็ไม่พอ ส่วนอีกเมนูหนึ่งก็คือพวกซาชิมิต่าง ๆ ที่ทางร้านขนกันมาอย่างจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปลากระพง หอยโฮตาเตะ ปลาทูน่า ส่วนมากุโร โอโทโร่ และชูโรโท่ที่สดมากจนแทบจะละลายในปาก แค่คิดก็น้ำลายสอแล้ว

ร้าน Kabocha Sushi มีอยู่หลายสาขาด้วยกันก็คือ สาขาลาดพร้าว 19, สาขา The Street รัชดา, สาขา The Nine พระราม 9, สาขา The Bright พระราม 2, สาขา Home Pro พระราม 3, สาขาเซ็นทรัลบางนา และสาขาเสนาเฟสท์ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 น. – 22.00 น. Facebook: Kabochasushi