เต้ยติ่มซำ ติ่มซำสูตรต้นตำหรับที่พร้อมเสิร์ฟ

ติ่มซำเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยของจีนกวางตุ้ง เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก ในประเทศไทยจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องติ่มซำที่สุดก็น่าจะเป็นจังหวัดตรัง ที่มีติ่มซำวางอยู่ตามร้านกาแฟยามเช้า มักทานคู่กับน้ำชาร้อน ๆ หรือกาแฟ ก็อิ่มท้องได้ทั้งวัน หลาย ๆ คนที่ไม่รู้จักว่าติ่มซำคืออะไร จริง ๆ แล้วติ่มซำเป็นที่รู้จักกันในแบบลักษณะของนึ่ง เช่น ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ที่วางอยู่ในเข่งหรือจานเล็ก ๆ แล้วนำไปนึ่ง ทานคู่กับซอสเปรี้ยวหรือจิ๊กโฉ่ว และกระเทียมเจียว หลาย ๆ ร้านในประเทศไทยมักจะนิ่งติ่มซำทิ้งไว้รอลูกค้าสั่งก็หยิบเสิร์ฟได้เลย

สำหรับท่านใดที่อยู่เชียงใหม่หรือแวะมาเที่ยวเชียงใหม่อยากจะลองทานอาหารอุ่น ๆ ท้องที่ไม่ใช่อาหารเหนือลองมาทานร้านนี้กันกับร้าน “เต้ยติ่มซำ” ร้านติ่มซำสไตล์จีนกวางตุ้งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า15 ปีแล้ว นอกจากร้านเต้ยจะคัดเลือกวัตถุดิบอย่างดีมาให้ลูกค้าได้รับประทานแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูติ่มซำให้เลือกมากมาย ทั้งขนมจีบ ซาลาเปา โดยเฉพาะซาลาเปาไส้หวาน โดยที่ตัวไส้พุทรากวนจะละเอียดเนียน รสชาติหวานกำลังดี แป้งซาลาเปาไม่แข็งนุ่มหอมเข้ากันกับตัวไส้ หรือจะเป็นซี่โครงหมูอบที่เนื้อไม่เหนียวรสชาติหวานซอสกำลังดี พร้อม ๆ กับจิบชาร้อน ๆ ที่ร้านนี้เค้ามีบริการให้ฟรีไม่เสียตัง พร้อมกับผักสดคุณภาพดีที่สามารถตักมาทานแกล้มคู่กันได้

หากใครที่อยากทานเมนูทอดของร้านนี้ก็มีเหมือนกัน เช่น กุ้งกรอบ หรือปอเปี๊ยะทอดที่ทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยก็ดูลงตัว เรียกกันว่าร้านนี้คนเชียงใหม่มาทานกันเยอะมาก นอกจากจะมีเมนูที่เยอะแล้วลูกค้าที่เข้ามารับประทานก็จะเยอะตามช่วงเวลาด้วยเหมือนกัน ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนกำแพงดิน ผ่านร้านหนังสือสุริวงค์บุ๊คเซนเตอร์ เจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา ประมาณ500 เมตรร้านจะอยู่ซ้ายมือ ร้านเต้ยติ่มซำเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่ม ตัวร้านจะเป็นอาคารพาณิชย์ประมาน 3 ล็อค ลูกค้าที่เข้ามารับประทานจะต้องเดินไปยืนเลือกติ่มซำกันหน้าร้าน เลือกเสร็จก็สามารถไปนั่งรอติ่มซำมาเสิร์ฟกันที่โต๊ะ ประมาน 15 นาทีก็จะมีเข่งติ่มซำมาวางบนโต๊ะข้างหน้ากันแล้ว แต่ถ้าใครที่สั่งเป็นของทอดไปอาจจะต้องรอทอดกันสักหน่อย แต่ใช้เวลาไม่มากก็จะได้รับประทานกัน ติ่มซำร้อน ๆ ที่มาเสิร์ฟตรงหน้า ตักทานคู่กับกระเทียมเจียวที่ร้านนี้เติมได้แบบไม่อั้น กระเทียมเจียวที่ร้านนี้ไม่ได้ใช้กระเทียมเจียวสำเร็จรูปทั่วไปแต่เป็นกระเทียมเจียวที่เจียวเองกรอบ ๆ หอม ๆ เพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ

ติ่มซำที่ร้านเต้ยติ่มซำ จังหวัดเชียงใหม่นอกจากจะเน้นคุณภาพที่มีมานานกว่า 15 ปีในเชียงใหม่ ยังเป็นอีกแหล่งนัดพบปะพูดคุยไปพร้อม ๆ กับการทานอาหารทีมีคุณภาพ นอกจากจะติดใจคนเชียงใหม่แล้วยังอยากให้ผู้คนจากที่อื่นได้มาลิ้มรสอาหารจีนสไตล์ยูนานกันที่นี่อีกด้วย

ข้าวมันไก่สูตรเด็ดบนถนนวัวลาย

ถนนวัวลายเป็นถนนเส้นวัฒนธรรมที่อยู่คู่จังหวัดเชียงใหม่มาเป็นเวลายาวนาน และนอกจากจะมีร้านขายเครื่องเงินอันเป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้แล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่น่าค้นหากันอีกมากมาย บนถนนสายวัฒนธรรม

นอกจากเครื่องเงินที่โด่งดังบนถนนวัวลายแล้ว ยังมีร้านรวงอีกมากมายที่เป็นที่รู้จัก แต่ถ้ามาถึงย่านนี้จะไม่ไปชิม  “ข้าวมันไก่นันทาราม” ที่เปิดมานานกว่า 27 ปี ถือว่าเป็นตำนานของข้าวมันไก่ในจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ สำหรับท่านที่เกิดคำถามสงสัยว่า ข้าวมันไก่ เป็นอาหารของไทยเราแต่ดั้งเดิมหรือไม่ ต้องบอกก่อนเลยว่าข้าวมันไก่เป็นอาหารที่ไทยเราได้รับอิทธิพลมาจากจีน โดยการนำไก่ไปต้มในน้ำจนไก่สุก เนื้อไก่นิ่ม จากนั้นก็นำข้าวสารไปผัดกับน้ำมันก่อนแล้วจึงค่อยนำไปหุง เพิ่มความหอมให้ข้าวโดยใส่ขิงลงไป พอสุกก็ตักไก่วางบนข้าว เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม แต่ไม่ใช่ทุกร้านที่จะมีรสชาติถูกปาก เหมือนร้านข้าวมันไก่นันทาราม กับความอร่อยที่อยู่มานานกว่า 20 ปี

นอกจากจะเป็นร้านที่มีชื่อเสียงจนมีหลายสาขาแล้ว เมนูของที่นี่ก็มีให้เลือกมากมาย นอกจากพระเอกของเราซึ่งเป็นข้าวมันไก่เนื้อนุ่ม ที่ไม่ได้ตีไก่จนแบนเหมือนร้านอื่น รับประทานกับพร้อมกับข้าวที่หุงกำลังดีเมล็ดข้าวเรียวสวย น้ำจิ้มรสเด็ดที่เป็นน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้านที่มีรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ทานคู่กับไก่รสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี หรือจะเป็นเมนูอื่น ๆ ของร้านนี้ก็มีมาให้เลือกไม่ว่าจะเป็นข้าวมันไก่ทอด แต่ถ้าใครที่อยากจะสั่งไก่เป็นจานแยกออกมาทานคู่กับข้าว หรือจะจิ้มน้ำจิ้มทานแยกต่างหากก็สามารถสั่งแยกได้ ราคาของเมนูในแต่ละอย่างก็สบายกระเป๋า ไม่ได้แพงตามยุคสมัยแต่อย่างใด นอกจากจะมีเมนูไก่แล้วก็ยังมีหมูสะเต๊ะ เนื้อนุ่มให้ลองชิมกัน การเดินทางมาชิมร้านนี้ก็ไม่ยากเลยเพราะร้านจะอยู่หลังถนนวัวลาย ถ้าหากขับมาจากประตูเชียงใหม่ก็เลี้ยวขวามาที่ถนนวัวลายตรงไปจนสุดถนนแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอกับร้านข้าวมันไก่นันทาราม เมื่อลงจากรถจะเจอกับร้านที่มีขนาดกว้างขวาง มีโต๊ะให้นั่งรับประทาน และรองรับลูกค้าที่มารับประทานกันเป็นกลุ่มใหญ่ เวลาในการรออาหารก็ไม่นานมากนักถือว่าบริการดี พนักงานที่ร้านมักจะถามเสมอว่าอยากรับอะไรเพิ่มเติมบ้าง มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา

ข้าวมันไก่เป็นอาหารที่หาทานง่ายแม้แต่ในชุมชนบางที่ ก็มักจะเห็นตู้ที่มีไก่แขวนโชว์ตามหน้าร้าน แต่จะเป็นที่ถูกปากถูกใจหรือเปล่า แบบนี้ต้องลองไปทานกัน หรือจะแวะมาทานกันที่ร้านข้าวมันไก่นันทาราม ก็ยินดีต้อนรับทุกคน

เอาใจคนรักสุขภาพ กับร้าน “สุกี้ ช้างเผือก”

สุกี้หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า สุกียากี้ เป็นอาหารที่นิยมรับประทานในประเทศแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่นและประเทศไทย สุกี้มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว และเริ่มเป็นที่รู้จักในประเทศไทยเมื่อประมาณ พ.ศ. 2500 เรียกได้ว่าคนไทยกินสุกี้กันมายาวนานเกือบ 60 ปีกันแล้ว ความแปลกใหม่ บวกกับรสชาติของความอร่อยทำให้สุกี้เป็นอาหารยอดฮิตตั้งแต่สมัยนั้นมาจนถึงปัจจุบัน

เริ่มแรกนั้นสุกี้ในสมัยยุคกลางของญี่ปุ่น มีเรื่องเล่าตามประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่า มีนักรบได้ออกล่าเนื้อสัตว์ (ยากิ)และนำกลับมาให้ชาวบ้านใช้พลั่ว (ซูกิ) ประกอบอาหารให้ทาน จึงทำให้เกิดเมนูที่เรียกว่า ซูกิยากิ และเมนูนั้นได้รับความนิยมต่อกันมาเรื่อย ๆ อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เมนูนี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายเพราะขั้นตอนการทำค่อนข้างง่าย แต่จะแตกต่างกันที่น้ำซุปที่ต้ม ผักและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่จะนำมาลวก ก่อนที่จะเสิร์ฟถึงมือของท่าน

แนะนำร้านสุกี้ร้านเด็ด เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่กับร้าน “สุกี้ช้างเผือก” ซึ่งต้นตำหรับของร้านจะอยู่ที่ตลาดโต้รุ่งช้างเผือก เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืน ด้วยเมนูเด็ดของร้านคือ สุกี้แห้ง ด้วยสไตล์การผัดผักที่คงความสด กรอบของผักไว้เสมอ มีกลิ่นหอมไหม้ของกระทะเบา ๆ กัดไปแล้วไม่เหม็นเขียวพร้อมน้ำสุกี้รสเด็ด เมนูสุกี้ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น สุกี้หมู สุกี้ทะเล ที่นี่ต้องยกนิ้วให้กับลูกชิ้นปลาก้อนกลม ขาว ใส เมื่อกัดเข้าไปแล้วมีความเนื้อเด้งอยู่ในปาก จิ้มน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้านเพิ่มความอร่อย หรือจะเป็นสุกี้น้ำ ที่น้ำซุปเข้มข้น มีความหวานจากผักและน้ำซุปที่เคี้ยวจนหอมอร่อยกลมกล่อม ถึงกับต้องสั่งทีเดียวไปเลย 2 จาน ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยระดับตำนานในเชียงใหม่แบบนี้แล้วลูกค้าก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วจะไม่ได้ทานเพราะร้านนี้มีถึง 2 สาขา สาขาแรกตั้งอยู่ตลาดโต้รุ่ง ถนนช้างเผือก ส่วนสาขา 2 ตั้งอยู่ที่หลัง มช.(มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) แต่ไม่ค่อยมีที่จอดรถทั้ง 2 สาขา แนะนำให้ขับรถมอเตอร์ไซค์ไป หรือใช้บริการรถแดงเพื่อความสะดวกในการเดินทาง

ด้วยความเปลี่ยนไปตามยุคสมัยทำให้สุกียากี้ในปัจจุบันมีให้เลือกรับประทานกันอย่างหลากหลาย และถูกดัดแปลงไปเรื่อย ๆ ตามความนิยม เพื่อให้ถูกปากมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสุกี้ในแบบหม้อไฟ หรือเพิ่มเติมเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ลงไปเพิ่มความพิเศษให้กับสุกียากี้ถ้วยโปรดของใครหลาย ๆ คน อีกทั้งร้านสุกี้ในประเทศไทยก็มีให้เลือกหลายร้านตามความชอบของแต่ละคน บางร้านก็มักจะมีอาหารพิเศษที่สามารถสั่งมาทานเป็นออร์เดิฟ เช่น เป็ดย่าง ติ่มซำ หรือบะหมี่หยก ก็ถูกอกถูกใจสำหรับคนไทยที่พาครอบครัวไปรับประทานกันทั่วบ้านทั่วเมือง

ของดีเชียงใหม่ “ไส้อั่วเก๊าบ่าขาม”

จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันเข้ามาเยี่ยมชมอยู่ตลอด สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเชียงใหม่นั่นก็คือ อาหารเหนือ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงเชียงใหม่แล้วไม่ได้มาชิมอาหารเหนือก็เหมือนจะมาไม่ถึง อาหารเหนือสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่อาจจะดูเลือกยาก แต่อยากให้ลองทาน “ไส้อั่ว” อาหารเหนือที่เป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่รองลงมาจากแคบหมู และน้ำพริกหนุ่ม ความเป็นเอกลักษณ์ของไส้อั่วของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงวิธีการทำซึ่งมีทั้งแบบย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ และแบบทอด

ไส้อั่วมีลักษณะคล้ายกับไส้กรอกที่เราเองคุ้นชิน เพียงแต่วิธีการทำนั้นจะละเอียดกว่าโดยการนำ ไส้อ่อนหมูยัดไส้ไปพร้อมกับเครื่องแกงและเนื้อหมูบด วิธีการนี้ทางภาคเหนือจะเรียกอั่ว กรอกเข้าไปในไส้หมู บิดให้เป็นท่อนพอประมาณ รัดหัวและท้ายของไส้เพื่อไม่ให้เครื่องแกงไหลออกมากจนทะลัก จากนั้นนำไปย่างให้เกรียมใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มเพื่อเป็นการระบายอากาศและทำให้ไส้ไม่แตก ไส้อั่วจะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน บางทีก็เลือกใช้วิธีการทอดกลิ่นก็จะหอมไปอีกแบบ บางที่นอกจากจะใช้หมูแล้วยังใช้ตับเป็นวัตถุดิบเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับไส้อั่ว เรียกไส้อั่วตับ หรือบางท้องถิ่นอาจจะมีการผสมหน่อไม้ไปด้วย เรียกว่า ไส้อั่วหน่อ แต่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมรับประทานไส้อั่วหมูมากกว่าเนื่องจากรับประทานง่าย และหาซื้อได้ทั่วไป

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของไส้อั่วเก๊าบ่าขาม ที่มากไปกว่ารสชาติก็คงจะเป็นกลิ่นหอมของสมุนไพร ที่ต้องโครกกันให้ละเอียด เครื่องเทศที่คัดสรรมาแล้ว ทั้งตะไคร้ พริกแห้ง กระเทียม และอีกหลาย ๆ อย่าง ทำให้ “ไส้อั่วเก๊าบ่าขาม” เป็นร้านที่ได้รับความนิยมของลูกค้าและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก รสชาติดี เนื้อไส้อั่วหอม มัน เมื่อกัดเข้าไปจะพบกับความฉ่ำของเครื่องแกงที่ผสมกับหมู ไม่มีความเลี่ยนมาทำให้เสียอรรถรสในการชิม เนื้อค่อนข้างแน่น ย่างบนเตาถ่านร้อน ๆ ควันโขมง ส่งกลิ่นเย้ายวนใจ ดึงดูดคนหิวให้มาต่อคิวซื้อกันอย่างเนืองแน่น สำหรับใครที่ซื้อทานที่ร้านแล้วยังไม่อิ่ม อยากจะซื้อกลับบ้านไปหรือซื้อเป็นของฝาก ที่ร้านเค้าก็มีไส้อั่วในรูปแบบที่ซื้อกลับไปได้ด้วยเผื่อใครที่อยากจะนำไปเป็นของฝาก

การเดินทางมาที่ร้านไส้อั่วเก๊าบ่าขามค่อนข้างหาง่าย เพราะร้านจะตั้งอยู่หน้าตลาดสดแม่เหี้ยะ ถนนเส้นคันคลองชลประทาน ที่ร้านไม่มีโต๊ะให้นั่งรับประทาน ร้านเปิดตั้งแต่ 8 โมงเช้า ขายไปเรื่อย ๆ จนกว่าของจะหมด ที่ร้านไม่ได้มีดีแค่ไส้อั่วแต่ยังมีอาหารเหนืออีกหลายอย่างให้เลือกชิมกันไม่ว่าจะเป็นแหนมย่าง น้ำพริกหนุ่ม หมูสามชั้นย่าง หมูยอ และอีกหลาย ๆ อย่างเตรียมพร้อมรอเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวกันเข้ามาชิมกัน

ร้านข้าวเงี้ยวดังระดับตำนาน “ข้าวเงี้ยว ตาบุญ” เชียงใหม่เจ้า

“ข้าวเงี้ยว” หรืออีกชื่อที่คนทางภาคเหนือมักเรียกอาหารชนิดนี้กันอีกอย่างหนึ่งคือ “ข้าวกั้นจิ้น” เป็นอาหารพื้นบ้านล้านนาที่ส่วนใหญ่มีแค่คนเหนือเท่านั้นที่รู้จัก เดิมทีข้าวเงี้ยวเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากไทยใหญ่ ซึ่งในอดีตชาวล้านนาจะเรียกชาวไทยใหญ่ว่า เงี้ยว จึงเป็นที่มาของการเรียกอาหารชนิดนี้ว่า ข้าวเงี้ยว แต่ในบางพื้นที่ก็มักจะเรียกกันอีกอย่างหนึ่งคือข้าวกั้นจิ้น อาจจะเป็นเพราะมีขั้นตอนการทำดังนี้ นำข้าวสวย มาคลุกเค้า บีบและนวด ผสมกับเลือดหมูที่คั้นกับตะไคร้เพื่อดับกลิ่น และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ ตักข้าวที่คั้นกับเลือดมาห่อกับใบตอง แล้วนำไปนึ่งจนสุก ก็เป็นอันเสร็จ พร้อมรับประทาน ขั้นตอนการคลุกเค้าแบบนี้ชาวเหนือจะเรียกว่า กั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า  ข้าวกั้นจิ้น

หากคุณแวะมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำให้ลองไปชิมร้าน ข้าวเงี้ยวตาบุญ เป็นร้านข้าวเงี้ยวในตำนานของชาวเชียงใหม่ ซึ่งอยู่บริเวณด้านหน้าการประปาเชียงใหม่ ก่อนถึงโลตัสคำเที่ยง ซึ่งชื่อระดับตำนานที่จะต้องกล่าวถึงนี้ก็คือ ตาบุญ เมื่อก่อนนั้นแกหาบข้าวเงี้ยวขายเลี้ยงครอบครัวมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว สิ่งทีเหลืออยู่ก็คือ สูตรข้าวเงี้ยวอร่อย ๆ ของแกที่ทิ้งไว้ให้กับลูกหลานได้สืบต่อจนเปิดเป็นร้านข้าวเงี้ยวตาบุญ ที่เราได้เห็นกันทุกวันนี้

สำหรับใครที่แวะมาทานที่ร้านนี้อย่ามัวแต่ดูเมนูเพลินจนลืมสั่งเมนูต้นตำหรับของร้านนั่นก็คือ ข้าวเงี้ยว ซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงนั่นก็คือ กระเทียมเจียวที่จะมีน้ำมันติดมานิด ๆ พริกแห้งทอด ผักชี และแตงกวา เวลาทานต้องบีบมะนาว ๆ นิด ๆ เพิ่มรสชาติ เคี้ยวไปจะได้กลิ่นหอมของกระเทียมเจียว มีความฉ่ำของน้ำมันกระเทียมเจียว ตัดเลี่ยนด้วยพริกแห้งทอด ต้องบอกเลยว่าจานเดียวไม่พอแน่นอน

เมนูอื่นที่ไม่ควรพลาดสำหรับร้านนี้นอกจากข้าวเงี้ยวแล้วก็คือ ข้าวซอย และขนมจีนน้ำเงี้ยว ซึ่งถ้ามาถึงเชียงใหม่แล้วไม่ได้กินก็ดูเหมือนจะมาไม่ถึง เมนูขนมจีนร้านนี้มีหลายน้ำให้เลือกชิม ทั้งน้ำแกงเขียวหวานไก่ น้ำยากะทิ แกงเผ็ดไก่ หรือถ้าใครไม่อยากกินเส้นก็สามารถสั่งราดข้าวได้ แต่ถ้าลังเลใจแนะนำเป็นเมนู ข้าวเงี้ยวราดน้ำเงี้ยว ก็เข้ากันจนอยากสั่งกลับไปกินที่บ้าน และยังมีของหวานอย่าง ลอดช่องแตงไทย หรือเฉาก๊วย ก็มีเหมือนกัน บรรยากาศในร้านสบาย ๆ สะอาด สะอ้าน ร้านเปิด 9 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น หยุดทุกวันอาทิตย์

ข้าวเงี้ยวหรือข้าวกั้นจิ้นเป็นอาหารของชาวเหนือ ใครที่เป็นชาวเหนืออยู่แล้วคงรู้กันดีว่ารสชาติมันอร่อยติดใจอย่างไร สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองชิมแล้วแวะมาเที่ยวเชียงใหม่หรือจังหวัดทางภาคเหนือ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมลิ้มลองรสชาติอาหารชนิดนี้ดูเพราะว่าด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้อาหารชนิดนี้เริ่มที่จะหาทานได้ยากขึ้นแล้ว