สนาม “เดอะ เดน” บ้านของฮูลิแกน และฝันร้ายของแฟนบอลทีมเยือน

ถ้าหากว่าคุณกำลังจะตามไปเชียร์ทีมฟุตบอลในดวงใจของคุณ และพวกเขามีโปรแกรมที่จะต้องไปเยือนทีมเล็ก ๆ ทีมหนึ่งอย่างมิลล์วอลล์แล้วละก็ ก่อนอื่นคือคุณจะต้องหยุดและคิดดูอีกซักครั้งก่อนที่จะตัดสินใจ ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเป็นทีมใหญ่ฟอร์มร้อนแรงพร้อมจะถล่มทีมรักของคุณแต่อย่างใด แต่สิ่งที่จะต้องนำมาคิดไตร่ตรองอีกครั้งก็คือความปลอดภัยของตัวคุณเองนั่นแหละ เพราะสนามเดอะ เดน ซึ่งเป็นสนามเหย้าของพวกเขานั้นเป็นแหล่งรวมของแฟนบอลที่ป่าเถื่อนที่สุดทีมหนึ่งบนเกาะอังกฤษนั่นเอง

สนามเดอะ เดน (The Den) รังเหย้าของมิลล์วอลล์นั้น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน เป็นสนามที่มีขนาดเล็กมีความจุเพียงแค่สองหมื่นกว่าที่นั่งเท่านั้น แต่มันกลับเป็นสถานที่น่ากลัวมากสำหรับแฟนบอลทีมเยือน เพราะด้วยความที่มีสนามที่เล็กและแคบ แต่ดันบรรจุไปด้วยแฟนบอลหัวรุนแรงทั้งนั้น เสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรงและคุกคามจึงดังก้องมากเป็นพิเศษ และหากคุณอยู่ฟังแฟนทีมเยือนแล้วละก็จะต้องพยายามข่มอารมณ์กับคำด่าทอเหล่านั้นให้ได้ เพราะถ้าอีกฝั่งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้แล้วนั้น ทางฝั่งเจ้าบ้านเค้าก็พร้อมจะปะทะเสมอและเรื่องมักจะจบลงด้วยการนองเลือดอยู่เป็นประจำ นอกจากการปะทะกันกับแฟนบอลทีมเยือนแล้ว กับคำตัดสินของกรรมการที่ทำให้พวกเขาไม่พอใจก็เช่นกัน มักจะมีการเสียงตะโกนด่าทอรวมถึงขว้างปาสิ่งของมาจากพวกเขาเสมอ หากเห็นว่ากรรมการตัดสินไม่เป็นธรรมต่อพวกเขา

ด้วยความที่พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมที่เก่าแก่ และอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงลอนดอน ที่สำคัญพวกเขาดันเล่นอยู่แค่ในลีกเล็กระดับล่างเท่านั้น ทำให้เป็นปมด้อยที่พวกเขาโดนแฟนบอลทีมอื่นที่ใหญ่กว่าเยาะเย้ยถากถาง ซึ่งแฟนบอลมิลล์วอลล์ก็เป็นพวกจุดเดือดต่ำซะด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะปวดหัวเสมอเมื่อมีการแข่งขันระหว่างมิลล์วอลล์กับทีมร่วมเมืองลอนดอน โดยเฉพาะเป็นการเจอกันของมิลล์วอลล์กับเวสต์แฮมอีกหนึ่งทีมที่ขึ้นชื่อเรื่องฮูลิแกนแล้วระก็ ถึงกับต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินเพื่อควบคุมสถานการณ์เลยทีเดียว ก็ยังถือเป็นข่าวดีของเจ้าหน้าที่อยู่บ้างที่พวกเขาทั้งคู่เล่นอยู่คนละดิวิชั่นกัน แต่ถึงจะมีการควบคุมเข้มงวดเพียงใดก็ยังคงมีการเปิดเผยจากทางตำรวจว่า มีคดีการใช้ความรุนแรงและใช้อาวุธทำร้ายแฟนบอลคู่แข่งของฮูลิแกนฝั่งมิลล์วอลล์มากถึง 56 คดีจากช่วงเวลาเพียงแค่ 4 ปีที่ผ่านมา

ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ จะถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงจะดีมากในปัจจุบัน แต่สำหรับแฟนบอลทีมเยือนแล้วสนามเดอะ เดน ยังคงเป็นที่ที่น่ากลัวเสมอ หากอยากรู้ว่าน่ากลัวแค่ไหนก็ลองหาหนังเรื่อง “อันธพาลลูกหนัง”(Green Street Hooligans) มาดูก่อน เพื่อจะได้รู้ว่าที่นั่นน่ากลัวเพียงใด และจะได้หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อนที่จะเข้าไปชมทีมรักของคุณ

“เวมบลีย์ สเตเดียม” สนามแห่งจิตวิญญาณของชาวอังกฤษ

ประเทศอังกฤษได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของกีฬาฟุตบอล แถมฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศอย่างพรีเมียร์ลีก ยังถือเป็นลีกที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย ชาวอังกฤษล้วนผูกพันกับโลกลูกหนังมาตั้งแต่เด็ก ทั้งฟุตบอลระดับสโมสรและทีมชาติ โดยสนามฟุตบอลที่ชาวอังกฤษทั้งประเทศผูกพันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น “เวมบลีย์ สเตเดียม” ซึ่งถูกใช้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษนั้นเอง

สนามเวมบลีย์ ตั้งอยู่ในเวมบลีย์ปาร์ก กรุงลอนดอน เริ่มก่อสร้างในปี 1922 โดยแล้วเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 เมษายน 1923 ซึ่งเป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ระหว่างโบลตัน วันเดอเรอร์ส กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาสนามแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นสนามแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน จนมีข้อความว่า “Road to Wembley” เป็นสโลแกนประจำการแข่งขัน นอกจากนั้นเวมบลีย์ยังถูกใช้เป็นสนามเหย้าของทีมชาติอังกฤษ และฟุตบอลลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศ รวมไปถึงถูกเลือกให้จัดการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก (ยูโรเปี้ยน คัพ) นัดชิงชนะเลิศ, ฟุตบอลโลก 1966 นัดชิงชนะเลิศ, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติทวีปยุโรป “ยูโร 96” รวมไปถึงฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 1948 และ 2012 ที่อังกฤษเป็นเจ้าภาพด้วย

เวมบลีย์ได้รับการรีโนเวทในปี 1963 เพื่อใช้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 1966 ซึ่งครั้งนั้นทีมชาติอังกฤษสามารถเอาชนะทีมชาติเยอรมันตะวันตกไปได้ในช่วงต่อเวลา ครองแชมป์โลกครั้งแรกและครั้งเดียวมาจนถึงปัจจุบัน จนกระทั้งในปี 2000 สนามเวมบลีย์ถูกปิดใช้งานเพื่อก่อสร้างสนามใหม่ด้วยทุนการก่อสร้างกว่า 790 ล้านปอนด์ ก่อนจะกลับมาเปิดใช้งานอีกครั้งเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2007 โดยสนามใหม่นี้มีความจุผู้ชมถึง 90,000 ที่นั่ง ใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรป นอกจากนั้นยังได้เปลี่ยนสัญลักษณ์ประจำสนามจากหอคอยคู่ มาเป็นเสาโค้งรูปครึ่งวงกลมแทน และมีการตั้งอนุสาวรีย์บ็อบบี้ มัวร์ กัปตันทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์โลก ไว้ที่หน้าทางเข้าสนามอีกด้วย

นอกจากจะถูกใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลแล้ว เวมบลีย์ยังถูกใช้จัดการแข่งขันกีฬาประเภทอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นรักบี้ ลีก, รักบี้ ยูเนี่ยน, อเมริกันฟุตบอล และมวยสากล รวมไปถึงการจัดคอนเสิร์ตระดับโลก ซึ่งศิลปินระดับตำนานอย่าง Michael Jackson, Queen, Paul McCartney, Elton John, U2, Madonna, Oasis, Bon Jovi และ Aerosmith ล้วนผ่านเวทีเวมบลีย์มาแล้วทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ BTS บอยแบนด์ชื่อดังจากประเทศเกาหลี ก็เคยขึ้นแสดงที่นี่เมื่อปี 2019 นับเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่ได้จัดการแสดงกลางกรุงลอนดอน

สนามเวมบลีย์เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมสนามได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.00 น. เว้นวันหยุดช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ โดยผู้เข้าชมจะได้สำรวจทุกซอกทุกมุมของสนาม เข้าชมห้องแต่งตัวนักเตะ, ห้องแถลงข่าว, อุโมงค์ปล่อยตัวนักเตะ และที่นั่งข้างสนาม รวมไปถึงประวัติศาสตร์ทั้งหมดเกี่ยวกับสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอังกฤษ