The Sportsman Bar & Restaurant สปอร์ตบาร์ที่ตอบทุกโจทย์ของแฟนกีฬา

หากคุณเป็นคอกีฬาที่กำลังมองหาสถานที่นัดรวมตัวแฮงค์เอาท์กับกลุ่มเพื่อนเพื่อเชียร์ทีมรัก The Sportsman Bar & Restaurant คือคำตอบของคุณ เพราะไม่ว่าคุณจะต้องการเชียร์กีฬาประเภทไหน สปอร์ตบาร์แห่งนี้ก็พร้อมช่วยให้คุณได้ติดตามชมการถ่ายทอดสดอย่างใกล้ชิดจนจบการแข่งขัน

The Sportsman Bar & Restaurant ตั้งอยู่ที่เทรนดี้ คอนโดมิเนียม ภายในซอยสุขุมวิท 13 ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสปอร์ตบาร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร สามารถรองรับลูกค้าได้ถึง 400 คน เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าจนถึงตี 2 ซึ่งการเปิดให้บริการแต่เช้านี้เอง ทำให้แฟนกีฬาสัญชาติอเมริกันอย่างบาสเกตบอล NBA, มวย UFC, ฮอกกี้ NHL, ฟุตบอล MLS, เบสบอล MLB, อเมริกันฟุตบอล NFL รวมไปถึงศึก Super Bowl สามารถนัดรวมตัวชมการแข่งขันกันไปพร้อมกับการสังสรรค์ได้เป็นหมู่คณะ

The Sportsman เป็นบาร์ขนาด 2 ชั้น ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายด้วยโทนสีดำและสีแดง มีโต๊ะที่นั่งทั้งแบบโซฟา และเก้าอี้กลม โดยบริเวณรอบตัวร้านมีการติดตั้งจอโปรเจคเตอร์แบบเอชดีจำนวน 8 ตัว และโทรทัศน์แอลอีดีอีก 26 เครื่อง เพื่อทำการถ่ายทอดสดกีฬายอดนิยมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลทุกลีกดัง, รักบี้, เทนนิส, กอล์ฟ, มวยสากล, วอลเลย์บอล, คริกเก็ต, มอเตอร์สปอร์ต และอเมริกันเกม รวมไปถึงมหกรรมกีฬาระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะนั่งอยู่ส่วนไหนของร้าน แถมยังติดตามรับชมได้มากกว่าหนึ่งชนิดกีฬาอีกด้วย นอกจากนั้นทางร้านยังจัดได้เตรียมโต๊ะพูลไว้รองรับลูกค้าถึง 15 โต๊ะครอบคลุมทั้ง 2 ชั้น โดยคิดค่าบริการชั่วโมงละ 200 บาท แถมยังจัดโซนปาลูกดอกจำนวน 5 เป้า ซึ่งทางร้านได้จัดทัวร์นาเมนต์ปาลูกดอกเป็นประจำทุกวันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่มเป็นต้นไป

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม ทางร้านได้เตรียมเบียร์หลากหลายยี่ห้อไว้ให้ลูกค้าได้เลือกตามต้องการ คุณจะไม่พลาดการดื่มด่ำเบียร์รสชาติโปรดไปพร้อมการเชียร์ทีมรักอย่างแน่นอน แถมยังมีรายการอาหารนับ 100 เมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยยอดนิยมอย่างผัดไทย, ราดหน้า, ผัดกระเพรา หรือแกงเขียวหวาน รวมไปแกงสไตล์อังกฤษ, สลัด, แซนวิช, พิซซ่าหลาย 10 หน้า และของหวานอีกหลายรายการ

การเดินทางมายังร้านก็แสนสะดวกสบาย เพราะปากซอยสุขุมวิท 13 อยู่ใกล้กับ BTS สถานีนานา เดินตรงเพียง 200 เมตรจากปากซอยก็ถึงร้านแล้ว หากใครเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็มีอาคารจอดรถไว้รองรับ ซึ่งสามารถจอดได้ฟรี 2 ชั่วโมง โดยหากเดินทางมายังร้านในวันที่มีเกมการแข่งขันแมตช์สำคัญ สามารถโทรจองที่นั่งล่วงหน้ากับทางร้านไว้ก่อนเพื่อให้ได้ที่นั่งที่ดีที่สุดในการรับชมถ่ายทอดสด

ปกติแล้วนักท่องเที่ยวของ The Sportsman จะเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่ ทำให้บรรยากาศภายในร้านเสมือนอยู่ในบาร์ต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีอัธยาศัยดีอยู่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น เพราะกีฬาถือเป็นภาษาสากลอยู่แล้ว

Score Bar พิกัดแฮงค์เอาท์กลางกรุง สำหรับแฟนกีฬาตัวจริง

การรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลถือเป็นกิจกรรมประจำสัปดาห์ที่เหล่าแฟนบอลพันธุ์แท้จะไม่ยอมพลาด โดยเสน่ห์อย่างหนึ่งในการชมเกมคือ บรรยากาศความสนุกที่เพื่อนร่วมก๊วนคอยลุ้นและเชียร์ทีมโปรดไปพร้อม ๆ กัน บาร์จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่าแฟนบอลเพื่อรับชมการแข่งขันไปพร้อมกับการแฮงค์เอาท์ แต่ร้านที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และกิจกรรมของเหล่าแฟนบอลนั้นกลับมีอยู่น้อยมาก ซึ่ง Score Bar คือหนึ่งในนั้น

                Score Bar เป็นสปอร์ตบาร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ในซอยสุขุมวิท 11 บนชั้น 2 โรงแรมแกรนด์เพรสซิเดนท์ ร้านตกแต่งโดยเลือกใช้สีเขียวเป็นสีหลัก เพื่อสื่อถึงสนามฟุตบอลหรือสนามกีฬาอื่น ๆ ผนังเป็นปูนเปลือยขัดมัน ตกแต่งด้วยภาพถ่ายกีฬาหลากหลายชนิด ทั้งฟุตบอล บาสเกตบอล และอเมริกันฟุตบอล เพื่อย้ำว่าสถานที่นี้คือสปอร์ตบาร์ที่พร้อมต้อนรับแฟนกีฬาทุกประเภท ไม่แพ้เว็บไซต์ VWIN ที่ให้บริการเกมสนุก ๆ มากมายเช่นกัน แต่กรอบรูปที่โดดเด่นที่สุดคงหนีไม่พ้น กรอบบรรจุเสื้อพร้อมลายเซ็นของไรอัน กิ๊ก ปีกพ่อมดชาวเวลล์ นักฟุตบอลระดับตำนานในยุค 90 และยุคมิลเลนเนียม

                นอกจากจะเต็มไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้เพื่อรองรับเหล่านักท่องเที่ยวที่มาเป็นหมู่คณะแล้ว ที่นี่ยังเต็มไปด้วยจอโทรทัศน์ที่ไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหนของร้านก็สามารถรับชมการแข่งขันได้อย่างชัดเจน ไม่ต้องเสียอรรถรสไปกับการถูกบดบังทั้งจากนักท่องเที่ยวคนอื่นและเสาอาคาร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกเล่นเป็นหมู่คณะระหว่างรอชมการแข่งขัน เช่น ฟุตบอลโต๊ะ พูล ปาลูกดอก ถังโจรสลัด เบียร์ปอง และรูเล็ตแก้วช็อต โดยสามารถชวนพนักงานสาว ในร้านมาร่วมเล่นด้วยได้

                ภายในร้านจำหน่ายเครื่องดื่มหลากหลายชนิดตลอดทั้งคืน ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ วิสกี้ บรันดี รัม จิน ไวน์ วอดก้า เตกีล่า ค็อกเทล รวมไปถึงชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีอาหารว่างและอาหารจานหลักหลากหลายสัญชาติไว้คลายหิว ทั้งข้าวผัด พาสต้า เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ และไก่ทอดที่มีให้เลือกมากถึง 15 รสชาติ

                จุดเด่นอีกข้อของ Score Bar คือการเดินทางที่สะดวกสบาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วย BTS สามารถลงรถไฟฟ้าที่สถานีนานา ประตู 3 หน้าปากซอยสุขุวิท 11 จากนั้นเดินเข้าซอยเพียง 300 เมตรก็จะพบกับร้านตั้งอยู่ทางขวามือ ส่วนนักท่องเที่ยวที่ขับรถส่วนตัวสามารถจอดรถไว้ที่อาคารจอดรถของโรงแรมแกรนด์เพรสซิเดนท์ ซึ่งรองรับรถยนต์ได้อย่างเพียงพอ และสามารถนำบัตรจอดรถมาประทับตรากับทางร้านเพื่อรับสิทธิจอดรถฟรี 12 ชั่วโมง

Score Bar มักจัดกิจกรรมร่วมสนุกกับนักท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำ ทั้งแข่งขันพูลชาเลนจ์ แข่งขันกินไก่ทอด หรือแม้แต่ศึกท้าดวลเตกีล่าปอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับคำท้าได้ตามความถนัด และพิเศษสุดสำหรับแฟนบอลปีศาจแดง ในทุก ๆ เดือน Score Bar มักถูกเลือกให้เป็นสถานที่รวมตัวของแฟนบอล หากคุณเลือกมาตรงกับวันที่แมนฯ ยูไนเต็ดลงทำการแข่งขัน คุณอาจได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร้องเพลง “กลอรี่ กลอรี่ แมนฯ ยูไนเต็ด” จนลั่นร้าน

ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยของสะสมเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

ความหอมหวานจากความสำเร็จคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในฤดูกาลที่ผ่านมาของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูลทำให้แฟนบอลยังคงมีความสุขมาจนถึงบัดนี้ ระยะเวลาหลายสิบปีที่สโมสรฟุตบอลจากถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ไขว่คว้าหาความสำเร็จเรื่อยมามีทั้งทุกข์และสุข ผ่านความล้มเหลว ผ่านอุปสรรคมากมายจนได้สุขสมหวังอย่างยิ่งใหญ่ แน่นอนว่าเรื่องเล่าเรื่องพูดคุยจึงมีไม่จบไม่สิ้นและสถานที่สำหรับพบปะพูดคุยคงจะเป็นการดีถ้าได้ย้อนไปดูวันวานของสโมสรไปด้วยคุยกันไปด้วยวันนี้เราจึงมีร้านอาหารสำหรับย้อนความทรงจำของพลพรรคเดอะ ค็อปในกรุงเทพฯ มาแนะนำให้รู้จักกัน

ร้าน “Liverpool” เป็นร้านอาหารจีนแต้จิ๋วและอาหารตามสั่ง แหม…แค่ชื่อร้านก็บอกแล้วว่าเจ้าของร้านคลั่งไคล้ทีมเครื่องจักรสีแดงเข้าเส้นขนาดไหน ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะไปผิดร้านหรือหาร้านไม่เจอเพราะคอนเซ็ปต์ของร้านนี้ชัดเจนเห็นแต่ไกลผนังแทบทุกด้านเต็มไปด้วยของที่ระลึกจากสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สำหรับวัยรุ่นที่เพิ่งเป็นสาวกของทีมหงส์แดงเข้าไปในร้านคงจะตื่นตาตื่นใจเป็นอันมากเพราะสามารถศึกษาประวัติความเป็นมาของสโมสรเมื่อครั้งอดีตได้อีกด้วย ส่วนแฟนบอลร่วมสมัยที่ทันยุคหวานอมขมกลืนมาเช่นเดียวกับเจ้าของร้านจะได้รับความทรงจำเมื่อครั้งวันวานกลับคืนมาผ่านชุดแข่ง ผ้าพันคอ ภาพนักเตะและของที่ระลึกจากทางสโมสร เรียกว่าเป็นพิพิธภัณฑ์กึ่งร้านอาหารก็คงได้

ร้าน Liverpool ไม่ได้มีดีแค่ของสะสมเท่านั้นหากแต่อาหารยังเลิศรสอีกด้วยส่วนใหญ่เป็นอาหารที่เหมาะจะเป็นกับข้าวทานกับข้าวสวยหรือข้าวต้มโดยเมนูของร้านก็เป็นเมนูทั่วไปที่พบเห็นได้ตามร้านข้าวต้มหรืออาหารตามสั่งเช่นต้มยำ ผัดเนื้อน้ำมันหอย ผัดกระเพรา หรือเมนูต้ม ผัด ทอดแบบต่าง ๆ ถึงแม้เมนูจะไม่ได้มีความแตกต่างจากร้านอาหารทั่วไปแต่ร้านนี้มีความเด็ดขาดที่รสชาติซึ่งชุมชนตลาดสวนหลวงและชุมชนถนนจันทร์รู้กันเป็นอย่างดี ถึงขนาดที่ว่าร้านย้ายจากตลาดสวนหลวงไปเปิดที่ถนนจันทร์ยังมีลูกค้าเก่าตามไปใช้บริการไม่ขาดสาย ร้านนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูลเพียงกลุ่มเดียวแต่ยังเป็นขวัญใจของคุณน้า คุณอา ชาวไทยเชื้อสายจีนที่มักจะแวะเวียนไปทานอาหารแต้จิ๋วกันทั้งครอบครัวดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล แฟนบอลทีมอื่น ๆ หรือไม่ได้เป็นแฟนบอลทีมใดเลยก็สามารถไปใช้บริการได้เช่นกันทางร้านเต็มใจให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างแน่นอน

ต้องบอกก่อนเลยว่าทางร้าน Liverpool ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ชมแต่อย่างใดเพราะไม่ได้เป็นร้านที่เน้นจุดขายตรงนั้น แต่หากใครสนใจรสชาติอาหารถูกปากอยากรู้เรื่องราวความเป็นมาของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูลผ่านของสะสมหาดูยากอย่าลืมแวะเวียนไปอุดหนุนที่ร้าน Liverpool ตั้งอยู่ที่ ถนนจันทน์ กรุงเทพมหานคร (ระหว่าง ซอยจันทน์19 กับ 21 ติดกับโรงรับจำนำ)

Ease Park & The Stadium แลนด์มาร์คที่คอบอลไม่ควรพลาด

ทุกวันนี้เทรนด์การตกแต่งร้านรวงในเมืองไทยพัฒนาไปค่อนข้างมาก แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการเข้าใจแล้วว่าการมีเพียงแค่สินค้าหรือบริการที่ดีนั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคสมัยใหม่อีกต่อไป การตกแต่งร้านให้ดูสวยงามจึงเป็นกระแสนิยมที่ดีต่อทั้งผู้ประกอบการและดีต่อใจลูกค้าด้วย แต่ถึงแม้การตกแต่งร้านในยุคนี้จะเฟื่องฟูขนาดไหนร้านอาหารแนวสปอร์ตบาร์เพื่อเป็นแหล่งพบปะพูดคุยของคนคอกีฬาก็ยังหาได้น้อย ส่วนใหญ่ธีมกีฬาจะนำมาตกแต่งชั่วครั้งชั่วคราวเช่นตอนมีมหกรรมกีฬาใหญ่ ๆ อย่างฟุตบอลโลกหรือฟุตบอลยูโรเพียงเท่านั้นไม่ค่อยมีร้านไหนยึดเอาธีมนี้เป็นถาวรนัก แต่ถึงแม้จะหาได้ยากเราก็ควานหาจนพบแหล่งช็อปปิ้งและบาร์ที่คงคอนเซ็ปต์กีฬาได้อย่างเหนียวแน่นอยู่บนถนนรามอินทราในกรุงเทพมหานครฯ นี่เอง

ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่อันให้ความรู้สึกเสมือนอยู่ในสนามฟุตบอลก็ไม่ควรพลาดคอมมิวนิตี้มอลล์ที่ชื่อ Ease Park รามอินทรา สถานที่ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งและศูนย์รวมร้านอาหารที่มีการออกแบบให้รูปทรงของอาคารทั้งหมดคล้ายสนามฟุตบอลชนิดที่ว่าขับรถผ่านหรือมองผ่าน ๆ อาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียมได้ง่าย ๆ สำหรับคอบอลนอกจากการไป Ease Park จะเป็นเติมเต็มด้านอารมณ์แล้วอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งคือร้านอาหาร The Stadium ที่จะทำให้คุณอินกับบรรยากาศมากยิ่งกว่าเดิม

                The Stadium เป็นร้านอาหารภายใน Ease Park มีการตกแต่งโทนอบอุ่นบรรยากาศคล้ายคลับเฮ้าส์เล็ก ๆ ในประเทศทางยุโรป มีความใส่ใจในรายละเอียดการตกแต่งร้านให้เห็นตั้งแต่ประตูทางเข้าไปจนถึงภายในร้าน แม้แต่เมนูอาหารก็ถูกออกแบบให้มีหน้าตาเหมือนหนังสือพิมพ์กีฬาแบบแท็บลอยด์ เดอะ สเตเดี้ยมเป็นร้านอาหารแนวเวสเทิร์นพริงเกิลส์ฟู้ด เน้นเมนูรับประทานง่าย ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ จะทานจริงจังก็ได้ ทานกับเครื่องดื่มก็ดี โดยเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือแฮมเบอร์เกอร์แบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูให้เลือกอีกสารพัดทั้งพาสต้า อาหารไทย อาหารทานเล่น สำหรับผู้รักสุขภาพก็มีสลัดรสชาติดีไว้คอยบริการ ที่พลาดไม่ได้เลยคือเบียร์คุณภาพที่ทางร้านเตรียมไว้เสิร์ฟให้คอบอลแบบไม่อั้นไม่ว่าจะมากันเป็นกลุ่มใหญ่ขนาดไหนก็ตาม แต่ถึงแม้ลูกค้าไม่ใช่คอบอลหรือผู้ชื่นชอบกีฬาร้านนี้ก็เหมาะสำหรับมารับประทานอาหารกับครอบครัวด้วยเช่นกันเพราะบรรยากาศในร้านออกแนวสบาย ๆ เด็ก ๆ จะเพลิดเพลินกับเมนูอาหารทานง่ายที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอแถมบางวันยังมีวงดนตรีมาขับกล่อมบรรเลงดนตรีเบา ๆ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเจริญอาหารดีไม่น้อย

                สำหรับคอบอลที่อยากรับชมการแข่งขันไปด้วยทางร้านมีจอถ่ายทอดสดฟุตบอลขนาดใหญ่คอยให้บริการดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดการแข่งขันนัดสำคัญ ลองนึกดูสิว่าได้ชมฟุตบอลพลางจิบเบียร์เย็น ๆ ในบรรยากาศคล้ายอยู่ในสนามฟุตบอลมันฟินขนาดไหน? ว่าแล้วอย่ารอช้ารีบนัดเพื่อนล่วงหน้าก่อนแมตซ์สำคัญ ร้าน The Stadium อยู่ที่ชั้น 3 Ease Park รามอินทรา ติด ซ.รามอินทรา 12 เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00 – 24.00 น. สามารถโทรไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ Tel. 02-0011190

5 ร้านดังน่านั่งเวลาเชียร์บอลในกรุงเทพฯ ปักหมุดไว้เฮร่วมกัน

สำหรับหนุ่ม ๆ  กิจกรรมอย่างหนึ่งที่คงจะถูกใจเสมอเมื่อได้ทำก็คือ การไปนั่งเชียร์บอลร่วมกันกับเพื่อน ๆ และยิ่งถ้าการนั่งเชียร์บอลนั้นมีอาหารอร่อย ๆ และมีเครื่องดื่มเย็น ๆ รสชาติดีเป็นองค์ประกอบด้วยก็จะยิ่งเพิ่มความฟินให้กับการเชียร์ทีมที่ตัวเองรักเข้าไปใหญ่ ครั้งนี้เราจึงจะมาแนะนำ พิกัดน่านั่ง กับ 5 ร้านอาหารในกรุงเทพฯที่เปิดให้หนุ่ม ๆ เข้าไปนั่งกินอาหารพร้อมกับเชียร์บอลคู่สำคัญกันได้ในแบบอาหารอร่อย บรรยากาศครื้นเครง ไปดูกันเลยดีกว่ามีร้านไหนกันบ้าง

1.Maldives Resort Bar

เป็นหนึ่งร้านที่หลายคนบอกว่าบรรยากาศดีมาก Maldives Resort Bar เป็นร้านดังที่ตั้งอยู่แถวแยกเหม่งจ๋าย เหมาะมากที่คุณจะชวนเพื่อนซี้มานั่งกินอาหารและเชียร์บอลเวลามีคู่สำคัญลงเตะในวันนั้น เรื่องรสชาติอาหารไม่ต้องห่วงเลยมั่นใจได้ว่าอร่อยสั่งได้ทุกอย่าง ยิ่งช่วงมีบอลเตะล่ะก็คนแน่นร้านเลยทีเดียว

ปักหมุดพิกัดร้าน : 671/1 ซ.รัชดานิเวศน์ แยก 21 ถ.ประชาอุทิศ สามเสนนอก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ ร้านเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปนั่งชิลนั่งเล่นกันได้ หรือโทรสอบถามก็ที่เบอร์ 0-2274-3829

2. Fullmoon Terrace & Bar

หากใครที่ไม่อยากไปร้านที่อึกทึกมาก ๆ อยากเปลี่ยนบรรยากาศลองหามุมลึกลับไว้นั่งชิลและเชียร์บอลกับกลุ่มเพื่อน 2 – 3 คน กินไปเชียร์ไปและพูดคุยกันไป ก็ขอแนะนำเป็นร้านนี้ Fullmoon Terrace & Bar อาหารรสชาติใช้ได้ แบบมีดนตรีสดให้ฟังทุกคืนด้วย เมนูเด็ดของร้านนี้ก็จะเป็นพวกซีฟู้ด หอยนางรมร้านนี้บอกเลยเด็ดมาก

ปักหมุดพิกัดร้าน : 39/543 โครงการพล่าซ่า ลากูน ถ.ลาดพร้าว-วังหิน กรุงเทพฯ ร้านเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ใครจะโทรสอบถามเวลาเปิด – ปิด ก็เบอร์นี้เลย 08-9985-3344

3. Share House & Restaurant

ใครที่ผ่านถนนเส้นพระราม 9 เป็นประจำน่าจะเคยเห็นร้านนี้ Share House & Restaurant ร้านดังน่านั่งย่านพระราม 9 ที่มีทีเด็ดทั้งเรื่องอาหาร และบรรยากาศชิล ๆ น่านั่ง มีดนตรีสดบรรเลงขับกล่อมทุกคืน และยิ่งคืนไหนมีบอลเตะ ก็จะฉายขึ้นทีวีจอยักษ์ด้วย บอกเลยใครที่ชอบบอลและมีการพนันเล็ก ๆ ไว้เป็นค่าขนมกับเว็บไซต์พนันต่าง ๆ เช่น  เว็บไซต์ VWIN ที่เป็นเว็บรับพนันบอลยอดนิยมที่คนไทยชอบ การได้มาเชียร์บอลและนั่งแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ๆ ในร้านนี้ยิ่งทำให้เชียร์บอลสนุกขึ้น ได้ลุ้นไปกับทีมที่คุณพนันไว้มากยิ่งขึ้น เชียร์บอลร้านนี้ได้เฮจริง ๆ

ปักหมุดพิกัดร้าน : ร้านนี้หาไม่ยาก ร้านตั้งอยู่ที่ ถ.พระราม 9 กรุงเทพฯ ติดกับโรงพยาบาลพระราม 9 เลย ร้านเปิด 5 โมงเย็นเป็นต้นไป ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 08-1356-3633

4. 20Something Bar

อีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ ของหนุ่ม ๆ ที่ต้องการนั่งฟังเพลงดี ๆ ไปพร้อมกับอาหารอร่อย ก็ต้องร้านนี้ 20Something Bar อาหารก็เยี่ยมหลายเมนู เครื่องดื่มก็ใช้ได้ ที่สำคัญหากมีฟุตบอลคู่สำคัญ ร้านนี้เปิดจอใหญ่ให้ได้เชียร์กันทุกนัด เป็นอีกหนึ่งพิกัดร้านที่น่าไป

ปักหมุดพิกัดร้าน : ร้านนี้หลายคนรู้จักดี อยู่เลียบด่วนรามอินทรา กรุงเทพฯ หาไม่ยาก บอกแท็กซี่ยังรู้เลย ร้านนี้เปิด 1 ทุ่มเป็นต้นไป สอบถามที่ 06-1675-2020

5. Mulligans Irish Bar Khaosan

ปิดท้ายกันที่คนที่ชอบดื่มด่ำกับบรรยากาศ ไม่เน้นกินแต่เน้นดื่มก็ต้องร้านนี้ Mulligans Irish Bar ร้านนี้แค่เห็นการตกแต่งร้านก็รู้ได้เลยทันทีว่าโดดเด่นเรื่องเบียร์ ใครไปนั่งดื่มก็จะรู้สึกคล้าย ๆ กับการไปนั่งจิบเบียร์ในต่างประเทศ อาหารเคียงก็ถือว่ารสชาติไม่ธรรมดา ที่ได้อารมณ์มาก ๆ ก็คงต้องยกให้เรื่องการเปิดให้เชียร์บอลผ่านจอใหญ่ ๆ นั่งจิบเบียร์ไปและเชียร์บอลพร้อมกับทุกคนในร้าน ฟินอย่าบอกใครเลย

ปักหมุดพิกัดร้าน : ร้านนี้อยู่ในถนนข้าวสาร หาไม่ยาก เลขที่ 256 เดินไปข้าวสารแป๊บเดียวก็เห็นแล้ว ร้านเปิด 1 ทุ่ม สอบถามโทร 0-2629-2882

นี่คือ 5 ร้านดังน่านั่งชิล ทั้งกิน ทั้งดื่ม พร้อมกับเชียร์ พิกัดดี ๆ แบบนี้ช้าอยู่ทำไม ปักหมุดและไปเฮกับเพื่อน ๆ ของคุณกันคืนนี้เลยสิ บันเทิงสุด ๆ แบบฉุดไม่อยู่ทีเดียว

ร้านท่านหญิง อาหารไทยชาววังรูปสวยรวยรส

อาหารไทยชาววัง เป็นอาหารที่มีเอกลักษณ์ ที่โดดเด่นและประณีตบรรจง เริ่มต้นตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การปรุง การหั่นส่วนผสม ลำดับการใส่ส่วนผสม หรือแม้กระทั่งการจัดจานเสิร์ฟ ซึ่งอาหารชาววังนั้น เดิมที่จะมาจากหญิงไทยชั้นสูงที่มีฝีมือ ได้รับการอบรมมาตั้งแต่เด็กจากในรั้วในวังเท่านั้น และอาหารต้นตำหรับชาววังจะมีหลายอย่าง และอาหารจะมีรสกลมกล่อมที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมชวนทาน เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์มาตรฐานของอาหารไทยชาววังก็ว่าได้

อาหารชาววังจากหลักฐานแรกที่เราเห็นการบันทึกไว้ มีมาตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ทรงได้ฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ รวมถึงอาหารตำหรับชาววังของยุคกรุงศรีอยุธยา จากนั้นเป็นต้นมาอาหารชาววังก็เป็นที่นิยม และมีการเสวยในวัง โดยผู้ที่ปรุงหรือรังสรรค์อาหารไทยชาววังคือฝ่ายใน หรือลูกหลานขุนนางหรือเจ้านายฝ่ายหญิง ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนในด้านอาหารมาอย่างดี สตรีที่ถวายตัวเพื่อทำอาหารชาววังในรั้วในวัง จะถูกเรียกว่า “เครื่องต้น” มีหน้าที่ปรุงอาหารให้เจ้านายในวัง รวมถึงพระมหากษัตริย์ อีกด้วย ซึ่งถ้าเครื่องต้นมีฝีมือในการทำอาหารชาววังเป็นที่โปรดปราน อาจจะได้รางวัลหรือเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง และในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ได้ทรงพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน โดยทรงพรรณนาถึงอาหารคาวหวาน และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี นางผู้เป็นที่รักของพระองค์ โดยนำเอาอาหารและความสัมพันธ์มาประกอบเข้าด้วยกัน จะเห็นได้ว่าในอดีตที่ผ่านมา อาหารไทยชาววังเป็นสิ่งที่หาทานได้ยากสำหรับคนธรรมดาทั่วไป แต่ในสมัยนี้เรามีโอกาสลิ้มรสได้เยอะขึ้นมาก

ถึงตอนนี้หลายคนที่อ่าน คงคิดว่า สงสัยจะสิ้นหวังแล้วหากจะกินอาหารไทยชาววัง แต่ช้าก่อนในใจกลางกรุงเทพมหานคร มีร้านอาหารชาววังแท้ ๆ ชื่อว่า “ร้านท่านหญิง” ตั้งอยู่ที่สีลมซอย 17 และ บางรัก 19 โดยอาหารที่เรียกว่าเป็นเป็นเมนูเด่นคือ ข้าวแช่ ซึ่งจะมีให้ลิ้มรสในฤดูร้อนเท่านั้น กลิ่นหอม ทานคู่กับเครื่องเคียงต่าง ๆ อย่างเช่น ลูกกะปิทอด หมูหวานฝอย  เป็นอาหารที่มีวิธีการทำค่อนข้างเยอะ ประณีต เป็นรสชาติต้นตำหรับแท้ ๆ

นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอื่น ๆ ให้ลอง อาทิเช่น มัสมั่น แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนู แกงกะหรี่ ผัดไทยกุ้งสด เมี่ยงคำ ยำถั่วพรู กระทงทอง ถุงทองทอดกรอบ ๆ นอกจากอาหารคาวแล้ว ร้านท่านหญิงก็ยังมีอาหารหวานทั้งในแบบตะวันตกและแบบขนมไทย เช่น ไอติมกะทิสดกับฟักทองนึ่งที่อร่อยมาหวานหอมและมัน  ผลไม้สด เมนูชาววังร้านนี้ มีราคาที่เราสามารถจับต้องได้ ไม่แพงอย่างที่คิด เหมาะสำหรับพาครอบครัวหรือคุณพ่อคุณแม่มาทาน มาสัมผัสอาหารต้นตำหรับไทยแท้ที่ร้านท่านหญิง