Arsenal Club Shanghai บาร์ที่ออกแบบมาเพื่อเหล่ากูนเนอร์ส

จีนถือเป็นชาติที่เศรษฐกิจเติบโตเป็นอันดับหนึ่งของโลก ณ.ขณะนี้ ส่วนสำคัญที่ส่งผลให้ชาติประวัติศาสตร์สองพันปีร่ำรวยที่สุดก็เพราะการเติบโตของโลกไซเบอร์ทำให้สินค้าที่ผลิตในจีนมีช่องทางในการจำหน่ายมากขึ้น ไปทั่วทุกมุมโลก และเม็ดเงินหลั่งไหลเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ของจีนทุกภาคส่วนแม้แต่ภาคประชาชน นั่นทำให้พวกเขามีกำลังซื้อมหาศาลต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง ไม่แปลกเลยที่ตอนนี้ใคร ๆ ต่างก็อยากค้าขายกับจีนเพราะแดนมังกรเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่ขนออกไปได้ไม่รู้จบนั่นเอง

“อาร์เซน่อล” หนึ่งในสโมสรฟุตบอลชั้นนำของพรีเมียร์ลีกเล็งเห็นช่องทางทำเงินในเมืองจีนและพวกเขาหวังธุรกิจนี้ของสโมสรจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ สร้างฐานแฟนบอล และตอบสนองความต้องการแฟนบอลชาวจีน แต่อาร์เซน่อลไม่คิดแค่การเปิดช็อปขายสินค้าที่ระลึกของสโมสรเท่านั้น พวกเขาคำนึงว่าแฟนบอลต้องการสิ่งที่มากกว่าแค่แหล่งจับจ่ายสินค้าของสโมสร สิ่งที่เหล่ากูนเนอร์สตัวจริงต้องการคือจุดรวมตัวเพื่อนัดพบพูดคุยและเชียร์ฟุตบอลทีมโปรดไปด้วยกัน ทีมปืนใหญ่จึงเป็นทีมแรกในพรีเมียร์ลีกที่สร้างความแตกต่างในธุรกิจอย่างเป็นทางการของสโมสร ทีมดังจากลอนดอนมาเหนือกว่าสโมสรอื่น ๆ ด้วยการเปิดธุรกิจร้านอาหารที่เป็นทีมของสโมสรอาร์เซน่อลทั้งหมดขึ้นในจีนเป็นแห่งแรก

Arsenal Club Shanghai เป็นร้านอาหาร & สปอร์ตบาร์แบบครบวงจร โดยในร้านตกแต่งให้เหมือนบาร์ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมของสโมสรทำให้มีบรรยากาศของบาร์แบบโมเดิร์นสไตล์อังกฤษแท้ ๆ ที่ดูทันสมัยแต่ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายความคลาสสิคในแบบฉบับของดินแดนผู้ดี ในส่วนของการรับชมฟุตบอลบาร์แห่งนี้มีจอสำหรับถ่ายทอดสดการแข่งขันของทีมอยู่ทุกมุมของร้านเรียกได้ว่าไม่ว่าจะนั่งมุมไหนก็ไม่พลาดการแข่งขันระดับห้าดาว ที่พิเศษกว่านั้นคือมีการสตรีมมิ่งเสียงเชียร์ของแฟนบอลจากในสนามขณะที่ทีมกำลังแข่งขันแบบสด ๆ มีการกระจายเสียงรอบทิศทางในแบบเวอร์ชวล เรียลลิตี้ให้ความรู้สึกเสมือนคุณนั่งอยู่ในบาร์ของสนามเอมิเรตส์จริง ๆ และจุดขายสำคัญที่พลาดไม่ได้เลยก็คืออาหารคลาสสิคแบบอังกฤษขนานแท้โดยเมนูแนะนำได้แก่ พายดั้งเดิมแบบอังกฤษที่มีให้เลือกมากมายทั้ง พายเนื้อ พายแกงกะหรี่เนื้อ พายมันฝรั่ง และพายอื่น ๆ อีกกว่าหกชนิด นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่นหรือทานเป็นกับแกล้มอย่างฟิช แอนด์ ชิพส์ ไก่ทอดสไตล์อังกฤษ ในส่วนของหวานนักชิมและบล็อกเกอร์ในจีนบอกว่าเลม่อนชีสเค้กเป็นหนึ่งในเมนูต้องห้ามพลาดเลยทีเดียว ปิดท้ายที่เครื่องดื่มแน่นอนว่าเบียร์สดของบาร์แห่งนี้นอกจากจะมีเบียร์ที่ผลิตขึ้นในจีนเป็นพื้นฐานแล้วหากใครอยากลองลิ้มเบียร์ชนิดเดียวกันกับที่จำหน่ายในอังกฤษก็มีให้เลือกด้วยเช่นกัน

Arsenal Club Shanghai ตั้งอยู่ที่ Rockbund, Lyceum Building, 185 Yuanmingyuan Road วันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดีเปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 น.เป็นต้นไปจนถึงตีหนึ่ง ส่วนวันศุกร์เปิดบริการ 11.30 น.ไปจนถึงตีสอง ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์เปิด 10.30 น.ไปจนถึงตีสอง เรียกได้ว่าเปิดทุกวันไม่มีวันหยุดเพื่อเอาใจสาวกทีมปืนโตอย่างแท้จริง

5 สนามฟุตบอลสุดแหวกแนวที่ควรไปเช็คอินสักครั้งในชีวิต

ถ้าเราจะเชิญชวนให้ไปเยือนสนามฟุตบอลชื่อดังอย่างคัมป์ นู, ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, โอล แทรฟฟอร์ด, แอนฟิลด์รวมทั้งสนามฟุตบอลของสโมสรชั้นนำระดับโลกต่าง ๆ หลายคนคงมองบนพลางรู้สึกน่าเบื่อ จำเจ ระดับสิบเพราะสนามชื่อกระเดื่องเหล่านี้ถูกตีแผ่โดยสื่อต่าง ๆ ทุกแง่มุมแล้ว แน่นอนว่าเราจะไม่ทำแบบนั้นเพราะสนามฟุตบอลที่ควรไปสักครั้งในชีวิตมันควรจะมีความพิเศษเฉพาะตัวแบบสนามฟุตบอลเหล่านี้ต่างหาก

The Float สนามฟุตบอลเดอะ โฟลทตั้งอยู่บน Marina Bay ไม่ไกล้ไม่ไกลจากเมืองไทยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างดินแดนลอดช่องประเทศสิงคโปร์นี่เอง สนามฟุตบอลแห่งนี้มีความเจ๋งตรงไอเดียที่หน่วยงานเอกชนตั้งใจสร้างให้เป็นสนามฟุตบอลลอยน้ำแถมยังทำสถิติเป็นสนามฟุตบอลลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย การมีเดอะ โฟลทช่วยส่งเสริมให้การค้าในแถบ Marina Bay คึกคักยิ่งขึ้นมีร้านค้ามากมายผุดขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวดังนั้นไม่ว่าจะไปช้อป ชิม ชิลหรือเช็คอิน ก็ฟินทั้งนั้น

Henningsvær Stadion สนามฟุตบอลสุดอินดี้แห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในหมู่บ้านชาวประมงประเทศ Norway สนามฟุตบอลแห่งนี้ไม่มีอะไรเป็นมาตรฐานทั้งขนาดสนาม แสตนเชียร์ แถมไม่เคยจัดแข่งขันฟุตบอลแบบเป็นทางการเลย ทว่าบนที่ตั้งอันโอบล้อมด้วยวิวทะเลกับขุนเขาพูดตรง ๆ ว่าถึงจะมีฟุตบอลแข่งอยู่ตรงหน้าหรือนักเตะระดับโลกวิ่งอยู่ในสนามก็คงน่าสนใจน้อยกว่าการดื่มด่ำไปกับบรรยากาศโดยรอบเลยจริง ๆ

Eidi Stadium สนามฟุตบอลกลางแหล่งน้ำสองสายตั้งอยู่ในประเทศ Faroe Islands ประเทศเล็ก ๆ ที่มีภูมิประเทศสวยงามในทวีปยุโรป สนามแห่งนี้คั่นอยู่ตรงกลางระหว่างทะเลสาบ ซอร์แว็กวัตน์กับมหาสมุทรแอตเเลนติกพอดิบพอดี การมีสนามฟุตบอล ณ.ที่แห่งนั้นจึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่น่าเหลือเชื่อจนผู้คนทั่วโลกต่างหลั่งไหลไปเที่ยวชมให้เห็นกับตาแม้จะไม่มีฟุตบอลแข่งขันก็ตาม

Hasteinsvollur สนามฟุตบอลท่ามกลางผืนหญ้าสีเขียวอันกว้างใหญ่ไพศาลตั้งอยู่ในประเทศ Iceland สนามฟุตบอลแห่งนี้นอกจากจะมีผืนหญ้าเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาแล้วยังมีภูหินแหลมโผล่ขึ้นมาข้าง ๆ สนามให้เป็นความน่าอัศจรรย์ใจแก่ผู้ไปเยือนอีกด้วย

Ottmar Hitzfeld Stadium สนามฟุตบอลที่ตั้งตามชื่อเทรนเนอร์ระดับตำนานของทีมเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิคแห่งนี้เป็นสนามฟุตบอลที่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยุโรป พิกัดของสนามอยู่บนขุนเขาแห่งหนึ่งในเมือง Zermatt ประเทศ Switzerland ด้านหนึ่งของสนามเป็นผาลาดชันมองเห็นวิวภูเขาเขียว ป่าสน และภูเขาหิมะราวกับอยู่ในดินแดนเทพนิยายก็ไม่ปาน

สนามฟุตบอลทั้งห้าแห่งนี้เราไม่อยากให้คุณพลาดไปเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต เพราะการไม่มีเกมอย่างเป็นทางการไปแข่งขันทำให้สนามเหล่านี้อาจไม่ยืนยงนัก อาจจะหายไปตามกาลเวลา ถูกภัยธรรมชาติทำลายหรือพื้นที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ดังนั้นเมื่อมีโอกาสอย่าลืมแวะไปเช็คอินให้ฟินในอารมณ์ถึงแม้คุณจะไม่ใช่แฟนฟุตบอลเลยก็ตาม

สนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก

ถ้าถามแฟนฟุตบอลพรีเมียร์ลีกว่าสนามฟุตบอลของสโมสรไหนคือสนามที่ดีที่สุดแน่นอนว่าหลายคนคงนึกถึงสนามความจุมหาศาลอย่างโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สนามสุดคลาสสิคอย่างแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล สนามเอมิเรต สเตเดี้ยมของอาร์เซน่อลหรือสแตมฟอร์ด บริจน์ของเชลซี แน่นอนว่าในด้านความประทับใจไม่มีคำตอบไหนผิดเลยแต่ในแง่ของคุณสมบัติทางเทคนิคแล้ว “ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม” รังเหย้าแห่งใหม่ของไก่เดือยทองต่างหากที่ถูกสื่อหลายสำนักยกให้เป็นสนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

การก่อสร้าง การก่อสร้างท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยมเป็นการสร้างทับที่สนามเดิมอย่างไวท์ ฮาร์ต เลนซึ่งยังเปิดใช้อยู่ด้วย พูดง่าย ๆ คือทุบของเก่าออกทีละส่วนแล้วสร้างต่อเนื่องกันไปเลย วิศวกรรมการก่อสร้างนี้ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ในวงการนั่นจึงทำให้ถูกถ่ายทำเป็นสารคดี หลายสถาบันการศึกษาใช้องค์ความรู้นี้เป็นโมเดลพัฒนาแนวคิดสถาปนิกรุ่นใหม่ ๆ อีกด้วย

ดีไซน์ หน้าตาของสนามใหม่ล่าสุดของวงการฟุตบอลอังกฤษนี้แตกต่างจากสนามฟุตบอลอื่น ๆ ที่มีรูปทรงจำเจเต็มไปด้วยท่อนเหล็กกับก้อนอิฐคล้ายคลึงกันไปเสียหมด ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม มีความสวยงามทันสมัยให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับ สื่อกีฬาบางเจ้าถึงขั้นยกให้เป็นสนามฟุตบอลที่สวยงามที่สุดในยุโรปไปแล้วด้วยซ้ำ

สิ่งอำนวยความสะดวก ในยุคดิจิตอลเช่นนี้ทีมไก่เดือยทองก็ไม่พลาดเอาใจคนยุคใหม่ด้วยการปล่อย WIFI ครอบคลุมทุกพื้นที่ในสนามนอกจากนี้สนามสุดเจ๋งยังขยายที่นั่งผู้ชมให้มีขนาดใหญ่นั่งสบายกว่าของเก่า มีที่นั่งซึ่งออกแบบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการโดยเฉพาะ ในส่วนของร้านอาหารมีอยู่กว่า 60 ร้านคอยให้บริการแถมมีบาร์ที่ยาว 65 เมตรถือเป็นบาร์ที่ยาวที่สุดในยุโรปสามารถเสิร์ฟเบียร์ 10,000 แก้วต่อชั่วโมงได้อีกต่างหาก

Multifunctional Stadium ยามไม่มีคิวแข่งขันสนามแห่งนี้ยังสามารถทำเงินได้ด้วยการปล่อยให้เช่าจัดคอนเสิร์ต ตั้งเวทีมวยชั่วคราว แข่งขัน NFL โดยพื้นสนามสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อความต้องการดังกล่าวได้แบบไฮเทคสุด ๆ ในขณะที่พื้นที่ด้านในของสนามในยังมีห้องให้จัดประชุม จัดเลี้ยง มีห้องพักให้บริการ ทั้งยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสนาม 365 วันเรียกได้ว่าครบวงจรและสร้างเม็ดเงินได้ไม่หยุดเลยจริง ๆ

ข่มขวัญคู่แข่ง ด้วยความคำนึงถึงผลงานของทีมเป็นหลักทำให้ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยมถูกออกแบบให้เก็บกักเสียงไว้ด้านใน เสียงเชียร์ของบรรดา Yid Army จะดังกึกก้องเป็นพิเศษและนั่นทำให้ทีมผู้มาเยือนที่จิตใจไม่เข้มแข็งพอมีขาสั่นกันแน่นอน ส่วนนักเตะของสเปอร์เสียงเชียร์เหล่านี้จะกระตุ้นให้พวกเขารู้สึกฮึกเหิมยิ่งขึ้น ดุดันกว่าเดิม คงไม่ต้องบรรยายว่านักเตะระดับโลก+โปเช็ตติโน่+พลังใจผลลัพธ์จะออกมาน่ากลัวขนาดไหน? …แค่คิดก็สยองแล้ว

ข้อดีของสนามแห่งนี้ยังมีอีกมากทั้งการเอื้อเฟื้องานให้กับชุมชนและคนท้องถิ่น ร้านขายสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป การเดินทางที่แสนสะดวกสบายดังนั้นถ้ามีโอกาสไปเยือนตอนเหนือของลอนดอนเราจึงไม่อยากให้คุณพลาดแวะไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม รังเหย้าแห่งใหม่ของทีมไก่เดือยทอง

นับถอยหลังวันอำลา ซาน ซีโร่

“ซาน ซีโร่” หรือ “จูเซ็ปเป้ เมอัสซ่า” สนามแข่งร่วมของเอซี มิลานกับอินเตอร์ มิลานถือเป็นสังเวียนแข้งที่อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกฟุตบอลมาโดยตลอด มีเหตุการณ์ประทับใจหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น มีนักเตะระดับโลกหลายคนเคยจารึกชื่อลงบนผืนหญ้าในสนามแห่งนี้ และนี่คือสนามที่แฟนบอลแทบทุกคนใฝ่ฝันว่าจะมีโอกาสได้ไปเยือนสักครั้งแม้ไม่ใช่แฟนบอลของสองทีมยักษ์ดังกล่าวก็ตาม แต่มาวันนี้ซาน ซีโร่กำลังจะเหลือเพียงตำนานดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จักกับสนามอันทรงเกียรติแห่งนี้ให้มากขึ้นก่อนจะเหลือไว้แค่ภาพถ่ายและในความทรงจำ

สนามจูเซ็ปเป้ เมอัสซ่าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1925 เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อ 19 กันยายน ค.ศ. 1926 หรือ 93 ปีที่แล้วมีสภาเมืองมิลานถือครองสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ เดิมทีเป็นสนามที่ถูกใช้โดยทีมเอซี มิลานเพียงสโมสรเดียวแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แยกตัวของบุคลากรในทีมเอซี มิลานออกไปก่อตั้งสโมสรใหม่ที่ชื่ออินเตอร์นาซิอองนาล มิลาโน่สนามแห่งนี้จึงถูกใช้ร่วมกันในปี 1947 เป็นทรัพย์สินร่วมของทั้งเอซี มิลาน อินเตอร์ มิลานและสภาเมืองมิลาน เป็นสนามที่มีความจุกว่า 82,955 ที่นั่ง เป็นอันดับ 4 ในด้านสถิติสนามความจุสูงสุดของยุโรประดับสโมสร

ซาน ซีโร่เป็นชื่อของตำบลที่ตั้งตามชื่อของนักบุญไซรัสหรือ Saint Syrus คำว่า Saint ในภาษาอิตาเลี่ยนเขียนว่า San ออกเสียงว่าซานส่วนนามของนักบุญ Syrus ในภาษาละตินใช้เป็น Syro เมื่อเขียนให้เป็นภาษาอ่านเพื่อการออกเสียงอย่างถูกต้องแบบอิตาเลี่ยนจะไม่นิยมใช้ y เพื่อออกเสียงอีหรืออิจึงแทนที่ด้วยอักษร i กลายเป็นตำบลนาม San Siro

จูเซ็ปเป้ เมอัสซ่าเป็นชื่อของนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งเคยรับใช้ทั้งสองสโมสร โดยทั้งเอซี มิลานและอินเตอร์ มิลานเห็นพ้องต้องกันว่าจะนำชื่อของเขามาตั้งเป็นชื่อสนามเพื่อเป็นเกียรติแก่ตำนานนักเตะคนดังกล่าว

San Siro ผ่านการปรับปรุงสนามมาแล้วถึงสี่ครั้งในปี 1935, 1955, 1990, 2015 สภาพอาคารในตอนนี้ค่อนข้างย่ำแย่และผู้บริหารอินเตอร์ มิลานเล็งเห็นว่าสดาดิโอนอายุเกือบร้อยปีแห่งนี้เกินเยียวยาแล้วจึงหารือกับผู้บริหารเอซี มิลานจนได้ข้อสรุปว่าทั้งสองทีมจะลงขันเป็นเงินกว่า 700 ล้านยูโรเพื่อก่อสร้างสนามแห่งใหม่บนพื้นที่เดิม ซึ่งก็คือการทุบทิ้งซาน ซีโร่เพื่อสร้างใหม่นั่นเอง

การระดมทุนสร้างสนามใหม่รวมทั้งแผนงานทั้งปวงเสร็จสิ้นไปแล้วบนโต๊ะเจรจาของทั้งสองสโมสรโดยในบทสรุปสนามแห่งใหม่ที่ยังไม่มีชื่อนี้จะเสร็จสิ้นกระบวนการและเปิดใช้ในปี 2023 สิ่งเดียวที่เป็นอุปสรรคในตอนนี้คือสภาเมืองมิลานที่ยื่นคำขาดว่าพวกเขาต้องได้ถือครองสิทธิ์เป็นเจ้าของสนามแห่งใหม่เหมือนเดิม ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้วแฟนบอลยังพอมีเวลาให้เก็บเงินพาตัวเองไปซึมซับความทรงจำที่ซาน ซีโร่เพราะงานนี้ผู้เกี่ยวข้องคงจะเจรจากันยืดเยื้อพอสมควร

สายเนื้อเชิญมุง แนะนำร้านเนื้อย่างกระทะร้อน แสนอร่อยในกรุงเทพฯ

เนื้อย่างกระทะร้อน เป็นอาหารที่อย่างหนึ่งที่คนรักเนื้อแค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว โดยเป็นเนื้อวัวนุ่ม ๆ สไลด์บาง ๆ ย่างบนเตาที่ทาด้วยเนยหอมกรุ่น และเมื่อเนื้อสุกแล้ว ก็ค่อย ๆ คีบออกมาจิ้มน้ำจิ้มและบรรจงนำเข้าปาก ทำให้รสชาติของเนื้อที่คลุกเคล้ากับเนยและน้ำจิ้มรสชาติจัดจ้าน ๆ ค่อย ๆ แผ่เต็มลิ้นและกระจายไปทั่วทั้งปากระหว่างที่เคี้ยว แค่คิดก็ท้องร้องแล้ว

แน่นอนว่าร้านเนื้อย่างกระทะร้อนในกรุงเทพฯ มีอยู่มากมายหลายร้าย แต่ละร้านก็นำเอาจุดเด่นของตัวเองมานำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อคุณภาพดีและน้ำจิ้มเด็ดแสนอร่อย เข้ากับเนื้อเป็นที่สุด เราจึงอยากจะแนะนำ 3 ร้านเนื้อย่างกระทะร้อน ที่คอเนื้อย่างต้องหาเวลาไปลิ้มลองให้ได้ มีร้านไหนบ้าง ไปดูกันเลย

จ้าวเนื้อ บุฟเฟต์ เนื้อย่างกระทะร้อน ร้านเนื้อย่างกระทะร้อนเจ้าเด็ดแห่งย่านโชคชัย 4

ร้านเนื้อกระทะร้อนนี้มีจุดเด่นที่เนื้อดีไม่คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อในส่วนเนื้อเสื้อร้องไห้ เนื้อริบอายและลิ้นวัว ส่วนผู้ที่ไม่ชอบทานเนื้อก็ยังมีหมู ทั้งเบคอนและสันคอหมู อีกทั้งยังมีอาหารทะเลอย่างกุ้ง หอยและปลาหมึก ครอบคลุมไลน์อาหารมาตรฐานสำหรับบุฟเฟต์ นอกจากนั้นก็ยังมีผักและบะหมี่หยก ในราคาเพียงแค่ 399.- เท่านั้น รวมเครื่องดื่มแล้ว

สำหรับน้ำจิ้ม ทางร้านมีให้เลือกจุใจถึง 4 แบบ ให้เลือกจิ้มกันตามอัธยาศัย ทั้งน้ำจิ้มแจ่ว 2 แบบ น้ำจิ้มซีฟู้ดแซบ ๆ และน้ำจิ้มสุกี้ ทานเพลินจนลืมคุมแคลฯ ไปเลย

ร้าน จ้าวเนื้อ ตั้งอยู่บนถนนโชคชัย 4 ปากซอย 33 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 13.30 – 23.30 น. โทรศัพท์ 098-423-6398

BestBeef ร้านเนื้อย่างกระทะร้อนในตำนานแห่งย่านอ่อนนุชและศรีนครินทร์

ร้านเนื้อกระทะร้อนระดับพรีเมียมที่เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลายาวนาน เป็นร้านบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกหลายราคา ตั้งแต่ 269.- 239.- และ 439.- ให้ลูกค้าได้ทานอาหารอร่อย ๆ ไม่อั้นภายในระยะเวลากว่า 2 ชั่วโมงเต็ม นอกจากกระทะร้อนแล้ว ยังมีบริการเตาย่างแบบเตาถ่านและหม้อไฟให้เลือกอีกด้วย เพิ่มอรรสรถในการรับประทานเนื้อ หมูและซีฟู้ดสด ๆ เกรดนำเข้าของทางร้านได้อย่างมากเลยทีเดียว

ร้าน Best Beef มีอยู่ด้วยกันสองสาขา คือสาขาสุขุมวิท ระหว่างซอย 48/2 และ 48/3 และสาขาศรีนครินทร์ ในซอยซอยศรีด่าน 22 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 16.00 – 00.00 น.

ร้านติดมันส์ เนื้อย่างกระทะร้อนสุดคุ้มในพุทธมณฑลสาย 2

ร้านเนื้อย่างที่เสิร์ฟเนื้อคุณภาพแบบริการตัวเอง (แต่ถ้าจะสั่งเนิ้อวัวจะต้องแจ้งกับพนักงาน) ร้านเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาเพียง 199.- ต่อหัวเท่านั้น ยังไม่รวมเครื่องดื่ม เรียกได้ว่าไม่แพงเลย โดยทางร้านยังมีผักให้เลือกมากมายจุใจ เอาใจทั้งสายเนื้อและสายผัก นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถเลือกเพิ่มหม้อหมูจุ่ม เพื่อซดน้ำซุปร้อน ๆ แก้เลี่ยนได้อีกด้วย

ร้านติดมันส์มีอยู่หลายสาขา ทั้งพุทธมณฑลสาย 2 และแพรกษา สมุทรปราการ สามารถเลือกไปรับประทานได้ตามสะดวก เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 16.00 – 23.00 น.

ชวนไปนั่งชิลที่ร้านกินดื่มสุดชิล บรรยากาศคึกคักที่ใจกลางกรุงเทพฯ Kenshin Izakaya

ในประเทศญี่ปุ่นจะมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่มากมายหลายแบบไม่ต่างจากบ้านเราเลย อีกหนึ่งรูปแบบของร้านอาหารที่ได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นอย่างมาก็คือร้านแบบ Izakaya คือร้านเหล้าหรือร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นนั่นเอง เพราะว่าวัฒนธรรมของญี่ปุ่นนั้นจะดื่มเหล้าเพื่อสังสรรค์หลังเลิกงานเป็นประจำ จึงทำให้ร้านแบบนี้ฮอตติดลมบน จนเข้ามาถึงประเทศไทยนั่นเอง

โดยร้านแบบนี้จะเป็นร้านที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ตกแต่งเป็นโทนสีสันฉูดฉาด บนพนังจะมีการติดชื่อเมนูเอาไว้ พร้อมกับราคา ซึ่งส่วนมากจะเป็นเมนูอาหารประเภทกับแกล้ม เอาไว้ทานกับเหล้า เบียร์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ ที่มีให้เลือกดื่มกันแบบจุใจนั่นเอง แต่หากไม่อยากจะทานเหล้า ทางร้านก็จะมีบริการชาและน้ำผลไม้ ไปจนถึง Soft Drink ดังนั้นผู้ที่ไม่ชอบดื่มจึงไม่ต้องห่วงเลย และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่จะขาดไปไม่ได้เลยในร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นก็คือโต๊ะไม้ ซึ่งมีถังสำหรับนั่ง ตามความต้องการที่อยากจะให้ร้านจุคนได้เยอะ ๆ ในพื้นที่ที่จำกัดนั่นเอง โดยการจัดร้านแบบนี้จะทำให้ร้านมีความครึกครื้นและสนุกสนาน ยิ่งดึกยิ่งดี ไม่แปลกใจเลยว่าเมื่อมาถึงประเทศไทย ร้าน Izakaya จะหลายเป็นที่นิยมอย่างฉุดไม่อยู่ จนตอนนี้มีหลายร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดให้บริการแบบ Izakaya ให้ชาวไทยเราได้สังสรรค์กับเพื่อนได้ตามอัธยาศัย

มาถึงร้านที่เราจะแนะนำกันบ้าง นั่นก็คือร้าน Kenshin Izakaya ซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกินดื่มแบบดั้งเดิมใจกลางย่านอโศก กรุงเทพฯ ตัวร้านมีรูปแบบการตกแต่งแบบญี่ปุ่น ได้อารมณ์เหมือนไปนั่งทานอาหารที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ด้วยเมนูที่มีมากมายหลายหลาย ทั้งทานเป็นมื้ออาหารและกับแกล้ม พร้อมด้วยเมนูแอลกอฮอล์แบบญี่ปุ่นที่น่าตื่นตาตื่นใจสุด

เรามาดูกันที่ไลน์อาหารกันบ้าง นอกจากพวกซูชิ ชาซิมิ โรลและมากิแบบต่าง ๆ ตามมาตรฐานร้านอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอาหารจำพวกของทอดอย่างเทมปุระ และไก่คาราอะเกะ มีของต้มร้อน ๆ อย่างสุกี้ยากี้หมูและเนื้อ นาเบะหม้อไฟกิมจิไก่ (Kimuchi Nabe Tori) ไปจนถึงอุด้ง อาหารสไตล์กับแกล้มอย่างยากิหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาหารเสียบไม้ทอด ส่วนเมนูที่อยากจะแนะนำเลยก็คือคอหมูย่างเกลือพริกไทย (Tontoro Shio Yaki) ข้าวผัดกระเทียม ปลาหมึกวาซาบิ ชีสญี่ปุ่นกับทูน่า (Okinawa Cream Cheese) และหอยนางรมทอด

มาถึงไฮไลท์ของร้านกินดื่มแบบญี่ปุ่นกันบ้าง ก็คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั่นเอง ทางร้านมีเบียร์หลายสูตร ถูกใจทั้งผู้หญิงและผู้ชาย สำหรับคุณผู้ชายขอแนะนำเบียร์ลูกผู้ชายหรือเบียร์อาซาฮี ซึ่งมีให้เลือกหลายไซส์และเหล้า Sanctuary ผสมโซดาและมะนาวกลมกล่อม ส่วนสำหรับคุณผู้หญิงต้องขอแนะนำเบียร์ลาเวนเดอร์ เบียร์ซากุระและเบียร์มะเขือเทศ ซึ่งมีรสกล่อมกล่อมมาก ๆ อย่างไรก็อย่าดื่มเยอะ กลับบ้านปลอดภัยนะ

ร้าน Kenshin Izakaya มาไม่ยาก ตั้งอยู่บนปากซอยสุขุมวิท 33 หากขับรถมา ก็สามารถจอดรถได้ที่ตึก ubcII ซึ่งอยู่ข้าง ๆ กัน จอดได้ฟรี 1 ชั่วโมง เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 – 00.00 น. โทรศัพท์ 02-661-6202 Facebook: Kenshin Izakaya ร้านอาหารญี่ปุ่น เคนชิน อิซากายะ

ครัวเจ้าพระยา ร้านอาหารทะเลสด ๆ ราคาไม่แพง แถมยังติดทะเล ณ สมุทรปราการ

เมื่อมาเยือนจังหวัดที่อยู่ติดกับทะเล ก็ไม่ควรจะพลาดอาหารทะเลสด ๆ ปรุงแบบจัดจ้าน ถูกปากคนไทยเป็นที่สุด วันนี้เราจะมานำร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก โดยขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แถมยังอยู่ติดทะเล บรรยากาศดีสุด ๆ ให้คุณได้ลองไปทานอาหารอร่อย ๆ แบบชิว ๆ กันให้จุใจอย่างร้านครัวเจ้าพระยา ร้านอาหารทะเลชื่อดังแห่งจังหวัดสมุทรสาคร

ร้านครัวเจ้าพระยาเป็นร้านที่เจ้าของเป็นเจ้าของเรือประมง ทำอาชีพประมงอยู่ในสมุทรสาครมานานหลายปี จึงมีวัตถุดิบจากเรือที่ค่อนข้างสดใหม่ จากเรือหาปลาเกือบทุกวัน เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหารให้ลูกค้าที่ร้านได้ทานกัน โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเจอของไม่สดหรือมีสารเคมี ตามสโลแกนของทางร้านที่ว่า “ไม่สดให้ตบ ไม่แซ่บ ไม่ต้องจ่ายเงิน” ดังนั่นจึงสามารถรับประทานได้อย่างสบายใจได้แน่นอน

เมนูของทางร้านมีอยู่มากมาย บางเมนูก็เป็นเมนูโบราณที่ค่อนข้างหาทานได้ยาก อย่างเช่นปลาทูซาเตี๊ยะ ซึ่งเป็นปลาทูสดที่นำมาควักไส้ออก นำมาต้มกับเครื่องปรุง จนรสชาติเข้าเนื้อ ทำให้มีรสชาติเค็มและหวานกลมกล่อม มีจุดเด่นที่สามารถทานได้ทั้งก้าง จึงเป็นที่มาของชื่อเล่นเมนูนี้ที่ว่าปลาทูก้างนิ่ม นอกจากนั้นก็ยังมีเมนูจากปลาทู ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของท้องถิ่น อาทิเช่น ปลาทูฟ ปลาทูทอดน้ำปลาและปลาทูต้มยำสูตรโบราณ (เป็นการต้มปลาทูกับน้ำซุปหอม ๆ ปรุงรสด้วยพริกขี้หนูสวน มะนาวและน้ำปลา) ไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางร้านก็ยังมีปูไข่ ปูเนื้อและปูม้าตัวใหญ่นึ่ง ทานพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดจัดจ้านของทานร้าน ยิ่งทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ก็ยิ่งอร่อย

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ทางร้านยังมีเมนูอาหารทะเลอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น เนื้อปูผัดผงกระหรี่ เนื้อปูผัดพริกขี้หนู ปูนิ่มทอดกระเทียม ห่อหมกเจ้าพระยา แกงส้มไข่ปลาริวกิวยอดมะพร้าวอ่อน และปูไข่ดอง แต่ละเมนูมีจุดเด่นที่ความแซ่บและความจัดจ้านของเครื่องปรุง และวัตถุดิบที่สดจริง ๆ มาจากท่าเรือ ถึงแม้ว่าเมนูจะมีมากมายละลานตาจนแทบเลือกไม่ถูก แต่ก็ให้ระวังเวลาสั่งอาหารนิดนึง เพราะว่าอาหารเค้าทำมาแต่ละจานค่อนข้างใหญ่ หากสั่งมาเยอะ อาจจะทานไม่เหมาะ แต่จะขอห่อกลับไปทานที่บ้านต่อก็ได้ ไม่มีปัญหา

บรรยากาศของทางร้านเป็นร้านเปิด มีลมทะเลพัดเข้ามาตลอด แม้ไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ก็เย็นสบาย มีที่นั่งกว้างขวาง จัดวางอย่างไม่แออัดและเป็นส่วนตัว พนักงานบริการดี ยิ้มแย้มแจ่มใส ลูกค้ายังสามารถเดินข้ามสะพานเพื่อไปถ่ายรูปสวย ๆ ได้บรรยากาศริมทะเลกระซ้าขาวอย่างจัดเต็มได้อีกด้วย

ร้าน ครัวเจ้าพระยา ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ขับมาจนถึงซอยวัดบางกระเจ้า ตรงเข้ามาเรื่อย ๆ และขับตามป้าย ไม่นานก็ถึงร้านแล้ว ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. โทรศัพท์ 094-340-3355, 087-155-1174 Facebook: ครัวเจ้าพระยา ริมทะเลกระซ้าขาว สมุทรสาคร

ชวนไปฟินกันที่ Copper Buffet บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ คุ้มค่าและมีระดับน่าลิ้มลอง

อาหารบุฟเฟต์นานาชาติเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาร้านอาหารดี ๆ ไว้ทานกับครอบครัวหรือคนพิเศษในวันที่พิเศษ หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาร้านบุฟเฟต์นานาชาติที่ราคาเหมาะสม แถมคุณภาพดีเยี่ยม เราขอแนะนำร้าน Copper Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติที่ปิ่นเกล้า ที่หากได้ลองไปทานสักครั้ง รับรองว่าติดใจอย่างแน่นอน

Copper Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติเกรดพรีเมียมที่มีราคาหลักร้อย ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด Copper Buffet เป็นร้านอาหารบุฟเฟต์ที่มีราคาเพียง 987 บาทเท่านั่น โดยในบุฟเฟต์จะรวมด้วยอาหารนานาชาติ ปรุงจากวัตถุดิบนำเข้าจากทั่วโลก ปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมเสิร์ฟลูกค้า มีอะไรกันบ้าง ตามมาดูเลย

ขอเริ่มในส่วนของอาหารญี่ปุ่น ทางร้านมีทั้งซูชิหน้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นซูชิหน้าเนื้อวากิว ซูชิหน้าปลาแซลมอนทั้งแบบสดและแบบเบิร์นให้สุดเล็กน้อย ราดด้วยซอสมากมายที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี และซูชิปูอัด ส่วนซาซิมิ ก็มีทั้งปลากะพง ปลาแซลมอนที่เลือกได้หากจะเอาส่วนท้อง ซึ่งมีความมันกว่าส่วนอื่น ๆ ปูอัดและไข่หวาน รวมไปถึงของทอดอย่างปลาไข่ทอดและกุ้งเทมปุระ

มาถึงในโซนอาหารยุโรปกันบ้าง ทางร้านมีให้เลือกอย่างละลานตาเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นสปาเก็ตตี้เส้นดำซีฟู้ด สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ผัดร้อน ๆ บนจานชีส ซึ่งจะทำให้สปาเก็ตตี้มีกลิ่นหอมมากและมีรสชาติอ่อน ๆ ของชีส และซุปเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติเข้มข้น มีกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลที่หอมมากจนแทบจะอดใจไม่ไหวจนต้องขอเติมอีกสักถ้วย อีกยังยังมีสเต็กเนื้อวากิว สเต็กเนื้อแกะและเนื้อซี่โครงนุ่ม ๆ ไม่เหนียว ให้ทานเพิ่มโปรตีนกันด้วย ยังไม่พอ ทางร้านยังมีอาหารประเภทสลัดและ Cold Cut

ไลน์อาหารทะเลก็มีหลากหลายเช่นเดียวกัน ทั้งหอยนางรมสดพร้อมเครื่องเคียงอย่างกระเทียมทอดและพริกเผา มีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และกุ้ง พร้อมด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านและสำหรับผู้ที่ชื่นชอบอาหารไทย ก็มีอาหารไทยให้เลือกทานกันอย่างจุใจเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นผัดไทยกุ้งแม่น้ำสด ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อวากิวและหมูและไก่ทอด

อีกไลน์หนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กับไลน์อื่นเลยก็คือของหวาน เพราะมีทั้ง Chocolate Lava, Panna Cotta, Cream brulee, Toast ต่าง ๆ และไอศกรีมรสชาติต่าง ๆ ทำสดเรื่อย ๆ ตามสั่ง จึงสดใหม่ ร้อน อร่อยมากจริง ๆ

ร้าน Copper Buffet ตั้งอยู่บนชั้น 2 โครงการ The sense ปิ่นเกล้า เวลาในการทานของร้านจะเปิดเป็น 4 รอบ ก็คือ รอบที่ 1 ตั้งแต่ 11.00 – 13.00 น. , ต่อมาคือตั้งแต่ 13.30 – 15.30 น. รอบที่ 3 ตั้งแต่ 17.00 – 19.00 น. และรอบที่ 4 ตั้งแต่ 19.30 – 21.30 น. หากต้องการจะมาทาน ควรต้องโทรมาจองที่นั่งก่อน นอกจากนั้นทางร้านยังเปิดให้สมัครสมาชิก เพื่อรับส่วนลดหัวละ 200 บาท พร้อมเมนูพรีเมียมประจำเดือนอาทิเช่น ตับห่านฟัวกราส์หรือกุ้งล็อบสเตอร์สดและหวานกรอบ โทรศัพท์ 092-281-1818, 098-824-1800 Facebook: Copper Buffet

ร้านตำแซบ ร้านส้มตำเผ็ดเว่อร์ ทั้งสะอาดและอร่อยที่มหาชัย

ส้มตำเป็นอาหารที่แค่นึกถึงก็เปรี้ยวปาก น้ำลายสอแล้ว ด้วยรสชาติเผ็ด ๆ เปรี้ยวนำและเค็มตาม ก่อนจะปิดด้วยรสชาติหวาน ครบทุกรสชาติจึงทำให้ทานเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ โดยแม่ค้าจะนำมะละกอสด ๆ กรอบ ๆ หั่นเป็นเส้น ๆ และใส่เข้าไปในครก ปรุงรสด้วยน้ำปลา พริก น้ำตาลปี๊บและผงชูรสเล็กน้อยพอให้รสชาตินัว ๆ แล้วก็ค่อยเติมด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่ช่วยชูรสให้ส้มตำอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปูม้า ปูดอง กุ้งแห้ง ไข่เค็มและปลาร้า สมเป็นอาหารยอดฮิตของบ้านเราจริง ๆ

ร้านส้มตำมีอยู่มากมายหลายร้าน ทั้งริมทางและในร้านที่มีเครื่องปรับอากาศ ราคาก็จะแตกต่างกันตามเครื่องปรุงที่ใช้และสถานที่ตั้งของร้าน ไปจนถึงความจัดจ้านของรสชาติส้มตำด้วย วันนี้ร้านที่เราจะแนะนำไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็มีความเผ็ดแซ่บเว่อร์ ไม่แพ้ร้านอื่น ๆ และก็อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากเท่าไหร่เลย ก็คือร้านตำแซบ มหาชัย นั่นเอง

ร้านตำแซบ มหาชัย เป็นร้านที่เปิดกิจการมานานหลายปีแล้ว อยู่คู่กับเมืองมหาชัย จังหวัดสมุทรสาครมานาน ทางร้านมีบรรยากาศดี เหมาะสำหรับพาครอบครัวมาสังสรรค์กัน และมีบริการห้องปรับอากาศ นั่งทานได้สบาย ๆ ไม่ร้อน ทางร้านจะขายทั้งอาหารไทยและอาหารอีสาน ซึ่งเมนูของเค้าจะมีความหลากหลายพอสมควร แม้ยังมีราคาไม่แพงมาก ในเมนูมีรายการส้มตำกว่า 30 รายการไม่ใช่แค่ส้มตำปู ส้มตำปลาร้าหรือส้มตำไข่เค็ม เรียกได้ว่าจุใจคนชอบทานส้มตำ ส้มตำของเค้าจะใช้พริกสดตำ จึงค่อนข้างจะเผ็ดเอาเรื่องอยู่ เวลาสั่งก็บอกระดับความเผ็ดที่ต้องการได้ ส่วนอีกเมนูหนึ่งที่ฮิตมาก ๆ ลูกค้ามาต้องสั่งกันเกือบทุกโต๊ะก็คือผัดหมี่กระเฉด ปีกไก่ทอด ปลากะพงทอดน้ำปลา ปลากะพงสมุนไพรและสลัดกุ้งแก้ว ซึ่งเค้าจะเป็นสลัดผลไม้ในตะกร้าเผือกทอด ทานคู่กับกุ้งชุบแป้งทอด ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และอีกเมนูยอดฮิตก็คือยำปูไข่ดอง มีน้ำจิ้มที่ใส่ทั้งพริกและกระเทียมจัดเต็ม อร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัวไปเลย และสำหรับผู้ที่ชอบทานผัก ลองทานกะหล่ำผัดน้ำปลาของทางร้าน ที่อร่อยมาก เค็มนำหวานตามกำลังดี ช่วยลดความเผ็ดได้ดีทีเดียว

ทางร้านยังมีของหวานให้เลือกทาน คือไอศกรีมหลายรสชาติและสละลอยแก้วเย็น ๆ ทานเมื่อไหร่ก็สดชื่น ชื่นใจเมื่อนั่นและแก้เผ็ดได้ดีมาก ขนมอีกอย่างก็คือกะลอจี้ ขนมที่ค่อนข้างจะหาทานยากสักหน่อยในปัจจุบัน แต่ทางร้านทำได้อร่อยใช้ได้เลย

ตัวร้านอยู่ในมหาชัย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังจะเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ ไปท่องเที่ยว หรือกำลังจะเดินทางกลับไปยังกรุงเทพฯ รับรองว่าร้านนี้ถูกใจทุกคนแน่นอนโดยเฉพาะผู้ที่ชอบทานส้มตำรสชาติจัดจ้าน อีกทั้งยังเดินทางไม่ยาก โดยอยู่ที่ซอยเทศบาล 8 มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ร้านจะอยู่ฝั่งขาออกเส้นพระราม 2 ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. – 22.00 น. โทรศัพท์ 080-025-3399 ทางร้านมีที่จอดรถกว้างขวาง สามารถขับรถมาได้เลย Facebook: ตำแซ่บ TumZap

แนะนำร้านชาบูซูชิสุดคุ้มและน่ารักที่ใคร ๆ ก็ชอบ Penguin Eat Shabu

ชาบูเป็นอาหารที่ทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ มีจุดเด่นที่รสชาติเข้มข้นของน้ำซุปที่มีให้เลือกหลากหลายตามใจชอบ ตั้งแต่รสชาติหอมกรุ่นสไตล์ญี่ปุ่น ไปจนถึงรสชาติจัดจ้านสไตล์ไทย และยิ่งมีน้ำจิ้มเด็ดแล้ว ขอบอกว่าต้องเติมเนื้อและผักรัว ๆ เลยล่ะ เราจะมาแนะนำร้านชาบูแสนอร่อย ที่มีจุดเด่นที่เป็นบุฟเฟต์และมีอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิรวมอยู่ในเมนูกันบ้าง รับรองว่าคุ้มสุดแถมยังถูกปากทุกเพศทุกวัยอย่างแน่นอน

Penguin Eat Shabu เป็นอีกร้านชาบูหนึ่งที่เปิดและก้าวเข้ามาในตลาดร้านชาบูที่มีการแข่งขันกันสูงมาก แน่นอนว่าร้านนี้ต้องมีดี ถึงได้เปิดทำการมาได้หลายปี แถมยังมีการขยายสาขาด้วยนะ โดยทางร้านเป็นร้านชาบูแบบฟิวชั่น ตกแต่งแบบสบายตาและมีโทนสีที่เห็นแล้วครึกครื้นอย่างสีเหลือง และมีตุ๊กตาเพนกวินตัวน้อยตกแต่งอยู่ในร้าน ถูกใจคุณหนู ๆ เป็นที่สุด อีกทั้งยังมีสโลแกนเจ๋ง ๆ อย่าง “ไม่อร่อยให้ต่อยเพนกวิน” ต่างก็เป็นจุดเด่นที่ทำให้บรรดาลูกค้าจดจำร้านนี้ได้นั่นเอง

ในส่วนของเมนู ทางร้านมีด้วยกันหลายเรทราคาด้วยกัน นั่นก็คือ 359, 459, 659 บาท โดยราคาดังกล่าวเป็นราคา Net แล้ว ไม่มีการบวกเพิ่ม ไฮไลท์ก็คือในส่วนของเมนูบุฟเฟต์ราคา 659 บาท Net จะมีเนื้อวากิวหอมนุ่มละลายในปาก มีทั้งส่วนริบอาย พับใน ลูกมะพร้าวและเนื้อน่องลาย โดยทางร้านบอกว่าเนื้อวัววากิวที่ใช้ในร้านเป็นเนื้อวัววากิวจากญี่ปุ่น ให้ทานยอดข้าวและเลี้ยงให้กินและนอน แบบไม่ต้องทำอะไร จึงทำให้เนื้อมีไขมันแทรกเยอะเป็นพิเศษ มีกล้ามเนื้อน้อย ทำให้ไม่เหนียว อร่อยสุด ๆ แอบกระซิบนิดหนึ่งว่าเวลาที่สั่งอาหารแล้วอาจจะต้องรอช้าสักหน่อย แต่ขอให้อย่าเพิ่งโมโห เพราะทางร้านเค้าจะนำเนื้อก้อนมาหั่นตามที่สั่ง เพื่อไม่ทำให้เนื้อแห้งและทำให้เนื้อหวานนุ่ม อร่อย นั่นเอง และสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อ ก็สามารถสั่งเนื้อหมูได้ มีทั้งหมูสันนอก สันคอและหมูสามชั้น เวลาจุ่มลงในน้ำซุปใสจากกระดูกไก่และน้ำซุปดำต้มจากปลาโอญี่ปุ่นตากแห้ง ขอบอกว่าแซ่บแน่นอน และสำหรับไลน์อาหารทะเล ก็มีทั้งปลาแซลมอน กุ้งทะเลและหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์สด ๆ เลือกกันไม่ถูกเลย

อาหารญี่ปุ่นยังเป็นอีกตัวชูโรงของทางร้าน โดยทางร้านจะมีซูชิวากิว วากิวโรล และแซลมอนโรล พร้อมด้วยซูชิหน้าปลาแซลมอนที่ปรุงรสด้วยซอสต่าง ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ทานเพลินจนอาจจะลืมจุ่มหมูลงไปในน้ำซุปเลยทีเดียว

กลับมาดูที่น้ำจิ้มกันบ้าง ของทางร้านจะมีน้ำจิ้มอยู่ด้วยกันสองสูตร ก็คือน้ำจิ้มพอนสึแบบญี่ปุ่นและน้ำจิ้มสุกี้รสชาติจัดจ้าน หากยังไม่พอใจ สามารถนำพริก กระเทียมและมะนาวของทางร้านมาปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบ

ร้าน Penguin Eat Shabu มีอยู่ด้วยกันหลายสาขาสะพานควาย, สาขา J-arena ราชพฤกษ์, สาขา C.P. Tower และสาขา Terminal 21 ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11.00 น. – 20.00 น. Facebook: Penguin Eat Shabu – เพนกวินกินชาบู