ตำนาน “นรกลูกหนังแห่งตุรกี” อลี ซามี เยน

ถ้าหากถามนักฟุตบอลที่เคยไปสัมผัสบรรยากาศในสนาม อลี ซามี เยน ของกาลาตาซารายทีมดังตุรกีมาแล้ว ว่าเขาอยากจะกลับไปเยือนอีกซักครั้งหรือไม่ เชื่อว่าไม่มีใครอยากกลับไปเยือนที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักฟุตบอลฝีเท้าดีแค่ไหนอยู่กับทีมที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม แต่ถ้าหากว่าทีมของคุณไม่ใช่กาลาตาซารายแล้วละก็ สนามแห่งนี้ก็คือนรกในเกมฟุตบอลของคุณอย่างแน่นอน

“อลี ซามี เยน” เป็นชื่อเก่าของรังเหย้าทีมดังจากตุรกี ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นเติร์ก เทเลคอม อารีนา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ก่อตั้งสโมสร คือ อลี ซามี เฟรเชรี่ ซึ่งเปลี่ยนนามสกุลของเขาที่เป็นชื่อแอลแบเนียนตามเชื้อสายมาเป็น “เยน” ซึ่งมีความหมายว่าผู้ชนะในภาษาตุรกี เพื่อระลึกถึงเขาในฐานะผู้ก่อตั้งและพาทีมเป็นแชมป์ลีกตุรกีได้ถึงสามสมัย ในเวลาการเล่นของเขากับทีมเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นเอง

สาเหตุที่สนามแห่งนี้ถูกขนานนามว่า “นรกลูกหนังแห่งตุรกี” ก็เพราะว่าบรรยากาศการเชียร์ภายในสนามนั้นของแฟนบอลที่นี่นั้น เต็มไปด้วยความดุเดือดคุกคามและรุนแรงอย่างมาก จนทำให้นักฟุตบอลทีมเยือนเล่นไม่ออกกันเลยทีเดียว และไม่ใช่แค่นักเตะธรรมดาทั่วไปเท่านั้นที่จะโดนบรรยากาศของสนามแห่งนี้เล่นงาน แม้แต่ผู้เล่นระดับโลกหลายต่อหลายคนก็เคยมาพบกับความปราชัยที่แล้วทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ราชันชุดขาวในยุดกาลาคติกอสที่มีซูเปอร์สตาร์ล้นทีม ดังนั้นในยุคนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นทีมใหญ่ขนาดไหนก็ตาม หากจับต้องฉลากมาเจอกับกาลาตาซารายแล้วละก็ สิ่งที่ต้องทำก็คือยิงตุนในบ้านตัวเองไว้เยอะ ๆ เลยจะดีที่สุด เพราะหากคุณคาดหวังมาชนะที่อลี ซามี เยน ละก็ต้องบอกเลยว่ายากมาก ๆ

ไม่เพียงแค่บรรยากาศในสนามเท่านั้นที่ทำให้พวกเขาได้เปรียบ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกพ่อมดแห่งทัพปีศาจแดงเคยเล่าว่า นอกจากบรรยากาศในสนามจะชวนให้ก้าวขาไม่ออกแล้ว พวกเขายังโดนแฟนบอลหัวรุนแรงของฝั่งเจ้าบ้าน ผลัดกันมาเมามายและตะโกนโหวกเหวกหน้าที่พักทั้งคืนจนแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ทั้งยังมีแฟนบอลตะโกนข่มคู่คุกคามตลอดการเดินทางสู่สนาม แถมพอไปถึงแฟนจำนวนมากก็เข้าไปรอและเริ่มกดดันผู้เล่นทีมเยือนตั้งแต่ช่วงลงอบอุ่นร่างกายกันเลยทีเดียว เรียกว่าทำทุกอย่างที่ทำให้ทีมของพวกเขาได้เปรียบเลยก็ว่าได้

ปัจจุบันนั้นกฎการควบคุมแฟนบอลนั้นเข้มงวดและมีโทษรุนแรงมากขึ้น ทำให้บรรยากาศดุเดือดของนรกลูกหนังดูเบาลงกว่าเดิมมาก และข่มขวัญนักเตะทีมเยือนได้ไม่มากเหมือนที่เคยเป็น แต่ก็ต้องบอกว่าสนามแห่งนี้ยังคงมีบรรยากาศการเชียร์ที่ดุเดือดมากกว่าหลาย ๆ ที่ในโลก ดังนั้นหากเป็นไปได้ก็ยังคงไม่มีนักฟุตบอลคนไหนที่อยากจะไปเยือน “นรกลูกหนัง” แห่งนี้อย่างแน่นอน